ช๊อค สตีฟ จอบส์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง!

First Post Last Post  
KITTIN 28 สิงหาคม 2554 , 13:56:57



หลังจากที่ สตีฟ จอบส์ ได้ลาออก จากตำแหน่งซีอีโอของบริษัทแอปเปิล ปรากฏว่าราคาหุ้นของบริษัทตกลงไปเพียง 5.3 เปอร์เซ็นต์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่าหลังจาก ที่ สตีฟ จอบส์ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร หรือซีอีโอของบริษัทแอปเปิล เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เนิ่งจากปัญหาสุขภาพที่รุมเร้า และตั้งนาย ทิม คุก ขึ้นเป็นซ๊อีโอ คนใหม่ และสติฟ จอบส์ จะรับตำแหน่งประธานบริษัทแทน จึงเป็นที่จับตามองมากกว่า ราคาหุ้นของแอปเปิลจะตกลงเท่าใด

ปรากฏว่า 30 นาทีแรก หลังจากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป หุ้นของแอปเปิลตกลงไป 1.76 เปอร์เซ็นต์ เหลือมูลค่า 369.56 ดอลล่าร์สหรัฐ
และตกลงจนไปถึง 5.3 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 356.10 ดอลล่าร์สหรัฐ ในช่วงติดตลาดหุ้นสหรัฐ

แต่ถึงอย่างนั้น หลังจาก 30 ปี ที่ สตีฟ จอบส์ กุมบังเหียน และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร๊จ ตลอด 14 ปี ที่ผ่านมาของแอปเปิล ในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ การลาออกของเค้าทำให้เกิดคำถามตามมาว่า บริษัทแอปเปิลจะยังมีศักยภาพเพียงพอ ในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน อิเล็กทรอนิค ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่าง คอมพิวเตอร์แมค ไอโฟน และไอแพด ซึ่งกำลังได้รับความนิยมสูงในตอนนี้อย่างมาก ได้หรือไม่

กว่าจะถึงวันนี้… สตีฟ จ๊อบส์ ผู้บุกเบิก สู่ยุคทองอิเล็กทรอนิกส์
กว่าจะถึงวันนี้… สตีฟ จ๊อบส์ ผู้บุกเบิก สู่ยุคทองอิเล็กทรอนิกส์

Mthai news: สุดท้ายต้องวางมือจนได้ไม่ว่าเหตุผลอันใด ซีอีโอชื่อดังของบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์แอปเปิล อย่าง สตีฟ จ๊อบส์ ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อย โดยให้นายทิม คุก ขึ้นมานั่งแท่นตำแหน่งแทน แน่นอนว่า ผลงานระหว่างการดำรงตำแหน่ง จ๊อบส์ ไว้ลายความสามารถจนทำให้ แอปเปิล กลายเป็นบริษัทสร้างรายได้อย่างมหาศาล ซึ่งกว่าจะประสบผลสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ มีเรื่องราวความเป็นมาของเครื่องประดิษฐ์ที่โลกต้องจารึก

ความเป็นมาของบริษัทแอปเปิลนั้น สตีฟ จ๊อบส์ หรือมีชื่อจริงๆว่า สตีเวน พอล จอบส์ เริ่มเข้าประชุมชมรม “เครื่องคอมพิวเตอร์ทำเองที่บ้าน” กับ สตีฟ วอซเนียก ในปี 1974 จากนั้นก็สมัครเข้าทำงานในตำแหน่งช่างเทคนิคที่ อาตาริ ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และวิดิโอเกมส์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ตลอดช่วงเวลานี้ มีการค้นพบว่านกหวีดของเล่นที่แถมมาในกล่องอาหารเช้าทำจากธัญพืชยี่ห้อแคปแอนด์ครันช์ ทุกกล่อง เมื่อนำมาดัดแปลงเล็กน้อยแล้วจะสามารถทำเกิดเสียงความถี่ 2,600เฮิร์ทซ์ ที่ใช้ในระบบโทรศัพท์ทางไกลของเอทีแอนด์ทีได้ โดยไม่รอช้า ในปีค.ศ. 1974 จอบส์กับวอซเนียกได้เริ่มธุรกิจผลิตกล่อง “บลูบ็อกซ์” จากแนวความคิดดังกล่าวอันทำเราสามารถโทรศัพท์ทางไกลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด


ปี 1976 สตีฟ จอบส์ในวัย 21 ปี กับสตีฟ วอซเนียก วัย 26 ปี ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ขึ้น เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่จอบส์กับวอซเนียกได้นำเสนอออกสู่สายตา ได้แก่เครื่องApple I และได้นำเครื่องApple IIออกสู่ตลาดตามมา ในปี 1977



Apple I & Apple II

ระหว่างนั้นแอปเปิล กลายเป็นบริษัทรายใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ในปี 1980 มีการออกแอปเปิล III สู่ตลาดในปีเดียวกัน แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร


Apple III

แอปเปิลขยายกิจการด้วยการ มองหาผู้มีความเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจเพื่อมาช่วยในการขยายกิจการ ซึ่งในปี 1983 จอบส์ได้ว่าจ้าง จอห์น สกัลลีย์ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเป็บซี่-โคล่า ให้มาดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิล โดยเขากล่าวท้าทายว่า คุณต้องการจะใช้ช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ไปกับการขายน้ำหวาน หรือว่าต้องการโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้กันแน่?” และปีนั่นเอง ได้มีการเปิดตัว คอมพิวเตอร์ลิซา แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จอีกเช่นเคย


คอมพิวเตอร์ลิซา

อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ย่อท้อ ทีมงานของแอปเปิลได้เปิดตัวเครื่อง “แมคอินทอช” ในปี 1984 เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่มีส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟฟิกส์ ที่ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และยังคงยืนหยัดมาถึงทุกวันนี้



ต้นฉบับแมคอินทอช

ขณะที่เขาเป็นบุคคลที่น่าจับตา บรรดานักวิจารณ์ตั้งข้อสังเกตว่า เขาเป็นผู้จัดการที่มีบุคลิกแปลกประหลาดและโมโหร้าย มักมีความขัดแย้งเรื่องอำนาจภายในบริษัท ซึ่งในปี 1985 ก็ถูกคณะกรรมการบริหารของแอปเปิลถอดออกจากภารกิจต่างๆที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบ จนเขาต้องลาออกในที่สุด

ด้วยสายเลือดนักบริหาร จอบส์ได้ก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใหม่ ชื่อว่า เน็กซ์ (NeXT) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำยุค ได้ออกเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเน็กซ์คิวบ์(NeXT Cube)ทำจากแมกนีเซียมตัดด้วยเลเซอร์ นอกจากนั้นเขายังได้จากรึกประวัติศาสตร์ด้วยการกำเนิดเวิลด์ไวด์เว็บ ชื่อเบราว์เซอร์ตัวแรกของโลกกับ ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี



NeXT Cube

ขณะที่แอปเปิล เรื่มเสียความเชื่อมั่นในตัว จิล อะเมลิโอ ผู้บริหารระดับสูง จึงได้ซื้อกิจการบริษัทเน็กซ์ คอมพิวเตอร์ด้วยราคา 402ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำจอบส์กลับมาสู่บริษัทที่เขาก่อตั้งเอาไว้ในปีค.ศ. 1996 มีการออกเทคโนโลยีหลายตัวแจ้งเกิดอีกครั้ง เช่น Mac OS X ที่พัฒนามาจาก NeXTSTEP และที่สำคัญ ไอแมค (iMac) สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างมากด้วยการออกแบบที่ดึงดูดใจ กระทั่งไม่กี่ปีต่อมาได้ถือกำเนิด ไอพ็อด เครื่องเล่นดนตรีขนาดพกพา ไอทูนส์ ซอฟต์แวร์สำหรับดนตรีดิจิทัล รวมไปถึงร้านดนตรีไอทูนส์



ไอแมค (iMac) & ไอพ็อด

แอปเปิลได้เปิดเผยไอโฟนรุ่นแรกโดย สตีฟ จอบส์ ในงานแม็คเวิลด์ วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2550 ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมประจำปีจากนิตยสารไทม์ ประจำปี 2550 การทำงานทั้งหมดจะทำงานผ่านหน้าจอโดยการสัมผัสมัลติทัชผ่านคำสั่งต่างๆ โดยมีระบบปฏิบัติการหลัก iOS และมีระบบเซ็นเซอร์ในการรับรู้สภาพของเครื่องเพื่อกำหนดการแสดงผลของจอภาพ โดยมีรุ่นถัดมาคือ ไอโฟน 3G และ ไอโฟน 3GS และรุ่นล่าสุด ไอโฟน 4 ได้เปิดตัวในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ความนิยมของไอโฟน ทำให้ตลาดโทรศัพท์มือถือล้มระเนระนาด ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อต่อสู้กับแอปเปิลที่มีลูกเล่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งไอแพด และไอโฟน5 ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้