(รีวิว) Ridge Racer (vita)

First Post  
limp2551 21 มิถุนายน 2555 , 16:18:58




นั่งดูรายการ Drift Competition ในช่อง Speed Channel (True ช่อง 72) แล้วโคตรมันส์เลยครับ เสียดายสนามแรกรอบชิง ดีเจเดย์ ชนะเพราะรถของคู่แข่งมีปัญหา แต่โดยรวมถ้าได้ดูมาแต่ละรอบก็เรียกได้ว่า ผู้เข้าแข่งขันทุกคนฝีมือการ Drift สุดยอดมากๆเลยครับ หลักจากดูรายการจบผมเลยเกิดอาการอยากรีวิวเกมรถแข่งแนว Drift Competition แบบนี้บ้าง เท่าที่นึกออกตอนนี้ PS Vita ก็มีเกมที่อารมณ์การแข่งขันใกล้เคียงอยู่บ้างก็คือเกม Ridge Racer


คลิปตัวอย่างรายการ Car Drift Competition 2012 (พัทยา)



Ridge Racer เป็นเกมแข่งรถที่มีเอกลักษณ์ในการ Drift ด้วยความเร็วที่สูงมากๆ อีกทั้งเกมนี้จัดเป็นเกมล็อตแรกที่ออกมาพร้อมเครื่องวีต้า วางจำหน่ายในราคา 3,980 เยน (ถูกกว่าเกมปกติทั่วไป) และถ้าซื้อแบบดาวน์โหลดก็จะลดราคาลงมาอีก เหลือเพียง 2,980 เยน เท่านั้น สาเหตุที่เกมนี้มีราคาถูกก็เพราะว่าตัวเกมจะมีสนามให้แข่งเพียง 3 สนาม (ถ้ารวมสนามเดิมแบบ Reverse ด้วยก็รวมเป็น 6 สนาม) ส่วนรถก็มีให้เลือกใช้เพียงแค่ 5 คันเท่านั้น !!






สารภาพกันแบบตรงๆเลยครับว่าผมเริ่มสบถคำหยาบตั้งแต่ผมลองโหลดเดโม่ Ridge Racer มาทดลองแล้วล่ะครับ เกมอะไรกันว้า เดโม่โคตรกากเลยครับ คะแนนเดโม่จากสมาชิกที่ร่วมกันโหวตใน PS store (JP) ก็ได้น้อยมากๆ สาเหตุก็เพราะเดโม่มันขี้เหนี่ยวไม่ยอมให้ทดลองเล่นใดๆเลยครับ เพราะงั้นถ้าคุณคิดจะดูกราฟฟิคในเกมก็สู้ไปหาคลิปมาดูน่าจะดีกว่า ไม่รู้ว่ามันจะให้เสียเวลาดาวน์โหลดเดโม่ทำแป๊ะอะไร ทดลองเล่นก็ไม่ได้ เวรแท้






ทันทีที่ผมเปิดเกม Ridge Racer ก็อดอุทานหาสัตว์เลื้อยคลานอีกรอบไม่ได้ เพราะตัวเกมตัดภาพสาว Reiko Nagase (ในรูป) ที่ควรจะอยู่คู่กับ Ridge Racer ออกไป (เวอร์ชั่น psp กับ 3ds มีไตเติ้ลปกติ) และเมื่อเข้าเกมมาโดยไม่ต่อไวไฟ สิ่งที่ผู้เล่นจะพบก็คือการแข่งกับ โกสต์ (คันเดิม) ไปเรื่อยๆ (และแพ้) หรือถ้าแข่งแบบ 8 คัน ความเร็วของรถที่คุณมี (ทุกคัน) มันก็ทำให้คุณรั้งบ๊วยได้จนพาลเบื่อเอาง่ายๆ แม้ว่าภาพในเกมจะดูสวยงามมากๆเสมือนนั่งเล่นเกมอาเขต (โบราณ) และเกมเพลย์ไหลลื่นแม้จะรันภาพที่ 30 FPS แต่การที่ผู้เล่นต้องแข่งในสนามเดิมซ้ำๆ แถมไม่มีเนื้อเรื่องใดๆในเกมอีกทั้งยังแพ้คอมอยู่บ่อยๆ มันก็พาลให้สบถอีกหลายๆรอบออกมา






รถมีให้เลือก 5 คัน คือ Synci , EO , Fiera , Rauna และ Bisargento ทุกคันมีความเร็วสูงสุดเท่ากันตาม Level ของผู้เล่น สามารถปรับเปลี่ยนสีรถได้ และหากเลือก Machine Customization ก็สามารถปรับแต่งระยะการ Drift ได้ด้วย ส่วนการปรับอื่นๆก็ทั่วไป เช่น ปรับเข็มไมล์ความเร็วเป็นหน่วย Km/h หรือ mph บางคนที่ชอบเข้าเกียร์เองก็สามารถปรับได้ว่าจะเข้าเกียร์แบบกดปุ่ม หรือใช้ทัชแพดหลังเครื่องก็ทำได้ แต่ไม่สามารถปรับมุมกล้องเวลาขับได้นะครับ มุมกล้องจะเป็นแบบ คนขับมองจากในรถและไม่เห็นตัวรถ และหากต้องการอัพเกรดรถก็สามารถเลือกปรับได้ที่โหมด Machine Upgrade Map โดยสามารถนำไอเท็มมาปรับแต่งรถได้ 3 ชิ้น แบ่งเป็น Group A , Group B และ Group C น่าเสียดายที่บางครั้งไอเท็มดีๆดันมาจาก Group เดียวกัน ระบบเกมมันจะให้เลือกใช้ได้เพียงอันใดอันหนึ่งเท่านั้น การจะเปิดไอเทมจะต้องใช้แต้มที่ได้จากการแข่งรถ เสียค่าเปิดครั้งละ 400 Cr. บางป้ายก็ไม่มีอะไรนะครับ เป็นป้ายเปล่าๆที่บังคับเปิดเพื่อเป็นทางเดินไปป้ายอันต่อไป






พูดถึงสนามในเกมทั้ง 3 สนามคือ Harborline 765, Highland Cliffs และ Southbay Docks ทั้งสามสนามเป็นสนามที่เคยอยู่ใน Ridge Racer ภาคเดิมๆ เรียกได้ว่ายกมาทั้งดุ้น (หากินกันง่ายดีนะ) ส่วนวิธีจะทำให้รถแรงขึ้นก็คือการขับซ้ำไปเรื่อยๆ พอ Level สูงขึ้นความเร็วรถยนต์ก็จะเพิ่มขึ้น ทีนี้ก็จะเริ่มเซ็งล่ะครับเพราะ โกสต์ (คันเดิม) มันก็จะตามความเร็วรถเราไม่ทันแล้ว ส่วนการแข่งแบบ 8 คันก็จะค่อยๆแซงนำจะได้ที่หนึ่งมาอย่างไม่ยากนัก


สรุป รถช้าก็เซ็ง รถเร็วก็เบื่อ เพราะงั้นจึงควรออนไลน์ (ไวไฟ)






ระบบออนไลน์ในเกมที่น่าจะเป็นจุดขายก็คือการแข่งออนไลน์แบบ Planetary League โดยจำลองให้ผู้เล่นเสมือนเป็นนักแข่งในทีม มีทีมอยู่ 4 ทีมให้เลือกตามสัญลักษณ์ปุ่มกด PlayStation เมื่อเลือกทีมแล้วทุกคนในทีมจะช่วยกันเก็บคะแนนจากการแข่งแต่ละครั้ง แล้วนำไปรวมกันเพื่อไต่อันดับทีมของตนเองให้ได้อันดับสูงที่สุด จุดที่น่าสนใจก็คือโหมด World Race สามารถโหลด โกสต์ (ทั่วโลก) มาขับแข่งได้ตลอดเวลา และเมื่อแข่งชนะก็สามารถอัพโหลด โกสต์ (ของตัวเอง) ให้ผู้เล่นทั่วโลกมาท้าแข่งได้ อย่างไรก็ตามการแข่งกับโกสต์มันก็แค่สู้กันที่ความเร็วเพราะสามารถชนทะลุผ่านโกสต์ได้ (Ghost แปลว่า ผี) เพราะงั้นถ้าต้องการอารมณ์การแข่งแบบจริงจัง ต้องหาจังหวะแซงและหลีกเลี่ยงการชนกัน แนะนำให้เล่นโหมด Spot Race น่าจะดีกว่า (แข่งกัน 8 คัน) หรือถ้าต้องการแข่งออนไลน์ก็สามารถทำได้สบาย เกมนี้ไม่ต้องใช้โค้ดออนไลน์เพราะงั้นจึงหมดปัญหาเรื่องไอดีวีต้าไม่ตรงโซนแผ่นเกม จุดนี้ก็ไม่ต้องกังวล






อาจบางทีเพราะเกมนี้มันให้อารมณ์การแข่งที่ดี ทำให้สุดท้ายเมื่อผมเล่นแบบออนไลน์ผมก็สามารถหยิบมันมาเล่นได้ทุกวัน และอัพเดตข่าวสารของทีมผ่านโหมด Team Vision (และได้แต้มไปเปิดป้ายอีกอย่างน้อยวันละ 1000 Cr.) ทำให้เสมือนเป็นผู้ร่วมทีมคนหนึ่งที่ช่วยกันผลักดันทีมของตน อีกทั้งช่วงแรกๆเกม Ridge Racer มีการแจกโทรฟีให้บ่อยมาก จุดนี้ล่ะมั้งที่ทำให้หลายคนลืมไปว่าเคยบ่นด่ามันมากมายมาก่อน กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็ติดมันงอมแงมจับมาเล่นทุกวันซะแล้ว






เกมนี้เน้นขาย dlc และก็เป็นเรื่องแปลกที่เมื่อรวม dlc ทั้งหมดแล้วส่วนเสริมพวกนี้กลับมากกว่าความจุของเกมหลักเสียอีก ใน dlc ที่ขายจะมีรถและสนามเพิ่ม รวมถึงเพลงและคอนเท้นท์ต่างๆ สำหรับใครที่ใช้ dlc ระบบจะมีแจ้งไว้เวลาออนไลน์ ใครจะโหลดโกสต์ที่ใช้ dlc แล้วตัวเองไม่มี ระบบมันจะแจ้งเตือนไว้ครับ (แถบสีแดง) เพราะงั้นคนที่ไม่ได้ซื้อ dlc ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้ปกติครับ สบายใจได้


รีวิวโดย limp2551