พลาสติกโมเดลกันดั้ม

ชุดคิท พลาสติกโมเดล กันดั้ม สินค้าในซีรี่ย์นี้ถูกผลิตขึ้นโดย บริษัทบันได (BANDAI) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับลิขสิทธ์เป็นผู้จัดทำและผู้จำหน่ายทั่วโลกเพียงเจ้าเดียว เริ่มต้นออกวางจำหน่ายครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี 1980, สินค้าประกอบด้วยแผงพลาสติกที่ฉีดขึ้นรูปเป็นโมลส่วนประกอบของพาร์ทต่างๆ ที่เรียกว่า RUNNER ของตัวโมเดลต้นแบบ ซึ่งต้องมีการตัด พาร์ทต่างๆ ออกจากแผงพลาสติกก่อนนำมาประกอบเข้าด้วยกัน ชุดคิท โมเดลพลาสติกกันดั้ม โดยทั่วไปมาพร้อมกับชุดสติกเกอร์ และดีคอลร์ (รูปลอกในแบบต่างๆ) ซึ่งถูกใช้ด้วยสีแบบพิเศษและการทำมาค์กิ้ง เพื่อช่วยเสริมให้โมเดลมีความสวยงาม สมจริงมากขึ้น มักผลิตโมเดลสินค้าตามแบบในการ์ตูน TV อนิเมชั่น, ภาคภาพยนต์, วีดีโอมังงะ และวีดีโอเกมส์ อย่างไรก็ตามครับ สินค้าชุดคิท ยังได้มีการแบ่งเกรดตามคุณภาพสินค้า รวมถึงสเกลขนาดในแบบต่างๆกัน ซึ่งเกรดที่ต่ำ มักผลิตปริมาณมาก ไม่เน้นที่ตัวคุณภาพ สเกลสินค้าก็ผิดเพี้ยน และสีในพาร์ทต่างๆก็คลาดเคลื่อนจากแบบในการ์ตูนอยู่มาก อีกทั้งต้องการการทำสีในตัวพาร์ทต่างๆ เพื่อให้งานดูเสร็จสมบูรณ์

*PLASTIC MODEL KIT หรือชุดคิท ในที่นี้เราหมายถึง ชุดส่วนประกอบพลาสติก หรือชิ้นส่วนพาร์ทต่างๆ ที่นำมาประกอบเข้าด้วยกัน ผมขอเรียกสั้นว่า “ชุดคิท” นะครับ

ในชุดคิท โมเดลพลาสติกกันดั้ม มีมากมายหลายขนาดให้เลือก โดยสเกลที่นิยมผลิตส่วนใหญ่ในท้องตลาด เริ่มตั้งแต่ขนาดสเกล 1:550, 1:220, 1:144, 1:100 ท้ายที่สุด 1:60 และยังมีที่ออกมาเร็วๆนี้ได้แก่ สเกล 1:35 เรียกว่า UC HARD Graph ด้วยขนาดสเกลของสินค้าที่มากมายในท้องตลาด ภายหลังบริษัทผู้ผลิตได้มีความคิดใน การกำหนดเกรดคุณภาพสินค้าย่อยลงไปในแต่ละขนาดสเกล ด้วยเกรดคุณภาพที่ต่างกัน จะเน้นถึงการบ่งบอกถึงคุณภาพ และรายละเอียดที่มากขึ้นหรือน้อยลงของตัวโมเดลอีกด้วย อีกทั้งยังได้ใช้ เกณฑ์เกรด เป็นมาตราฐานคุณภาพ ในการแบ่งกลุ่มของสินค้าที่รู้จักกันดี และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการชุดคิท โมเดลพลาสติก กันดั้ม โดย เกรดกันพลา จะแยกย่อยตามสเกลต่างๆ ดังนี้ครับ

SD GUNDAM

SD GUNDAM หรือ SUPER DEFORMED GUNDAM (Deform หมายถึง ผิดรูปผิดร่าง) ซึ่งก็สมกับชื่อของสินค้า สินค้าในไลน์นี้ได้แก่ SD G-Generation, SD BB GUNDAM สินค้าไม่มีการระบุสเกล NON-SCALE โดยสินค้ามักทำตามรูปแบบในการ์ตูนอนิเมท หรือมักหยิบยกตัวละครในตำนานมาทำดีไซน์ในรูปแบบหุ่นยนต์กันดั้ม แต่ตัวหุ่นมีลักษณะเฉพาะตัว คือ หัวโต ตัวเตี้ย แขน ขาสั้น และเน้นแนวน่ารัก ชุดคิทนี้จะมีความง่ายในการประกอบ แต่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว โพสท่า และมักต้องการการทำสี รวมถึงทำรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้ได้งานที่เสร็จสมบรูณ์ สินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ไลน์ BB Senshi Sangokuden Fuuun Gouketsu Hen หรือ กันดั้มสามก๊ก นั่นเอง

1:144 SCALES (ความสูงประมาณ 13 ซม.)

ภาพโลโก้สินค้า High Grade มักจะแสดงซีรี่ย์กันดั้มใต้โลโก้ HG และภาคกันดั้มซีคจะแสดงสัญญลักษณ์ภาคต่างๆกำกับไว้หน้ากล่อง

สเกล 1:144 ไม่กำหนดเกรด (NO GRADE) จัดเป็นชุดคิทช่วงแรกๆ ที่มีการผลิตซ้ำมากว่า 20 ปี โดยเริ่มผลิตจาก กันดั้ม RX-78-2 ชุดคิทนี้เมื่อประกอบเสร็จ จะมีระยะการเคลื่อนไหวในวงที่แคบและที่จำกัด จัดการโพสแอ็คชั่นท่าไม่ได้ หรือน้อยมาก ส่วนใหญ่ต้องใช้กาว และการทำสีเข้าช่วยในการประกอบ ชุดคิทนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีการแยกสีมาให้ครับ และราคาถูก

สเกล 1:144 ชุดลิมิทเต็ด อิดิชั่น (LIMITED EDITION หรือชุดคิท LM) ชุดคิทนี้ไม่มีการกำหนดเกรด ตัวแบบสินค้ามักผลิตจำนวนจำกัด กำหนดแบบจากตัวละครผู้ร้าย ในอนิเมทซีรี่ย์ GUNDAM WING หรือ GUNDAM-X ชุดคิทนี้ส่วนใหญ่ต้องใช้กาว และการทำสีเข้าช่วย สินค้าที่ผลิตออกสู่ตลาดได้แก่ OZ-06MS LEO, DT-6800A Daugthress, RMS-006G Jenice Custom และ GS-9900 G-Falcon

สเกล 1:144 FIRST GRADE (FG) เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2000 โดยเริ่มทำจาก ชุดคิท พลาสติกโมเดล 3 แบบได้แก่ กันดั้ม RX-78-2, MS-06 ZAKU II Mass-Production Type และ MS-06S Zaku II Char Custom ชุดคิทนี้ไม่แยกสีมาให้ สีเดียวทั้งตัว จัดว่าต้องทำสีเองทั้งตัว ในชุดแรกเมื่อประกอบเสร็จ ส่วนใหญ่จะขยับข้อศอก เข่าได้อย่างเดียว ใช้เวลาประกอบไม่นาน อย่างไรก็ตามในกลางปี 2007 เกรดนี้ ได้มีการพัฒนามากขึ้นกว่าเดิม คือ มีการแยกสีมาให้ในแต่ละพาร์ท แต่ยังคงเป็นสีเดียวทั้งชิ้น และยังคงต้องทำสีเพิ่ม รวมถึงง่ายต่อการตัดจากแผงพลาสติกโดยตัวสินค้าได้นำเสนอตัวละคร กันดั้ม 4 ตัวจากอนิเมทซีรี่ย์ MOBILE SUIT GUNDAM 00 ได้แก่ GUNDAM EXIA, GUNDAM KYRIOS, GUNDAM DYNAMES และ GUNDAM VIRTUNE

สเกล 1:144 HIGH GRADE (HG) เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปี 1990 ได้มีการปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้น คุณภาพพลาสติกดีขึ้นมาก อีกทั้งชุดคิทนี้มีการแบ่งสีอย่างชัดเจน สีใกล้เคียงความจริง มีช่วงระยะการขยับตัวได้กว้างขึ้นมาก และโพสท่าได้มากขึ้น ดูสมจริงทีเดียว โดยตัวสินค้าส่วนใหญ่จะผลิตจากแบบตัวละครในการ์ตูนทีวีซีรี่ย์ชุดกันดั้มทั้งหมด 4 ภาค ภายหลังได้มีการแตกไลน์ย่อยลงไปอีกได้แก่ High Grade Universal Century (HGUC) และ High Grade Gundam Seed

High Grade Universal Century (HGUC) วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1999 เป็นโมเดลขนาด 1:144 ที่ผลิตจากยูนิตคาแร็คเตอร์ที่ปรากฏในซีรี่ย์กันดั้มภาค U.C. (Universal Century) และกว่า 50% เป็นยูนิตที่ปรากฏในกันดั้มภาค One Year War ในไลน์ HGUC มีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ด้วยการใช้เทคโนโลยีการฉีดพลาสติกแบบใหม่ ทำให้ตัวโมเดลมีคุณภาพที่ดีมากขึ้น รวมถึงการพัฒนางานด้านออกแบบโมเดลให้ดียิ่งขึ้นไป ด้วยคุณภาพและการออกแบบที่ดี HGUC ถูกพิจารณาว่าเป็นสินค้าในรุ่น HIGH GRADE รุ่นที่คุณภาพดีที่สุดในเวลานั้น และได้รับการยอมรับจากผู้เล่นกันพลาทั่วโลก

High Grade Gundam Seed เป็นโมเดลขนาด 1:144 ที่ผลิตจากยูนิตคาแร็คเตอร์ที่ปรากฏในซีรี่ย์กันดั้มช่วงเวลาที่เรียกว่า C.E. (Cosmic Era) ซึ่งโมบิลสุทกันดั้มภาคหลักๆ ที่ถูกนำมาทำจะประกอบด้วย Gundam SEED, Gundam SEED Astray, Gundam SEED Destiny และ Gundam SEED C.E. 73: Stargazer ส่วนในด้านคุณภาพของงานผลิตนั้น มีความเทียบเท่ากับในรุ่น HGUC เลยทีเดียว ในรุ่นนี้ยังมี สินค้าในภาค Gundam Seed MSV (Mobile Suits Variations) อีกด้วย

High Grade Gundam 00 เป็นโมเดลขนาด 1:144 ที่ผลิตจากยูนิตคาแร็คเตอร์ที่ปรากฏในซีรี่ย์กันดั้ม ดับเบิ้ลโอ (Mobile Suit Gundam 00) สินค้าเริ่มวางจำหน่ายปลายปี 2007 ปัจจุบันมีผลิตเป็นโมเดลในขนาดต่างๆ ทั้งสิ้นเพียง 8 ยูนิต สินค้าในรุ่น HG Gundam 00 มีการพัฒนาคุณภาพที่ดีกว่า HGUC และ HG รุ่นอื่นๆ ด้วย

1:100 SCALE (ขนาดความสูง 16-19 ซม.)

โลโก้หน้ากล่องที่ระบุเกรดของสเกล 1:100

สเกล 1:100 HIGH GRADE (HG) ตัวสินค้ารุ่นนี้โดยทั่วไปมีคุณภาพเทียบเท่ากับ 1:144 HG เพียงแต่มีสเกลที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มีการใช้ระบบมัลติคัลเลอร์ พลาสติก อินเจ็คชั่น (Multi-color plastic injection system) คือการฉีดพลาสติกแบบแบ่งสีในพาร์ทต่างๆ แล้วนำชิ้นส่วนมาประกอบเข้าด้วยกัน สินค้าส่วนใหญ่จะผลิตจากแบบยูนิตในการ์ตูนทีวีซีรี่ย์ชุดกันดั้มภาคพิเศษ ได้แก่ กันดั้มวิง, กันดั้ม เอ็กซ์, กันดั้ม เอฟ 90, กันดั้ม เอฟ 91 และจี กันดั้ม เหมาะสำหรับนักโมเดลขั้นต้นที่ต้องการฝึกฝีมือ เพราะมีราคาถูก

สเกล 1:100 GUNDAM SEED / SEED DESTINY / SEED MSV ตัวโมเดลทั้งหมดจะปรากฏในภาคกันดั้มซีค โดยได้แบ่งซีรี่ย์การผลิตออกเป็น 3 ไลน์ใหญ่ๆด้วยกัน คือ Mobile Suit Gundam SEED, Mobile Suit Gundam SEED Destiny และ Mobile Suit Gundam SEED MSV (Mobile Suits Variations) ตัวสินค้ามีการพัฒนาคุณภาพเทียบเท่ารุ่น HIGH GRADE (HG) แต่ที่เหนือกว่ารุ่น HG คือ โครงสร้างตัวโมเดล การแบ่งแยกสี และเนื้อพลาสติกทำได้ดีกว่า ชิ้นส่วนต่างๆมีแบ่งแยกสีอย่างชัดเจน เมื่อนำมาประกอบเป็นพาร์ทในส่วนบอดี้ต่างๆ ก็ไม่จำเป็นต้องทำสีเพิ่ม ตัวโมเดลก็ดูสวยงาม และในปี 2007 ก็ยังได้มีการเพิ่มไลน์โมเดล 1:100 จากกันดั้มซีรี่ย์ MOBILE SUIT GUNDAM 00 (กันดั้ม ดับเบิ้ลโอ) ซึ่งมีการปรับปรุงคุณภาพขึ้นจากเดิม ได้แก่ GUNDAM EXIA, GUNDAM KYRIOS, GUNDAM DYNAMES

สเกล 1:100 MASTER GRADE (MG) เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในฤดูร้อน ปี 1995 ในรุ่นนี้การออกแบบและการผลิตตัวสินค้ามีมาตรฐานที่สูงขึ้นกว่าทุกเกรดที่กล่าวมา เพื่อให้ตรงตามความต้องการสินค้าโมเดลที่มีคุณภาพที่สูงขึ้น โมเดลรุ่น MG มีการปรับปรุงในด้านคุณภาพมีโครงสร้างที่แข็งแรง เนื้อพลาสติกดีมาก การแบ่งสีและงานมีรายละเอียดที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน เนื้องานมีความสม่ำเสมอเรียบร้อย สมจริง รวมถึงสเกลที่มีความแม่นยำมากกว่าเกรดก่อนหน้า และด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าเกรดอื่นๆ โมเดลรุ่น MG ยังได้มีการนำเสนอรายละเอียดกลไกที่ตัวเฟรมโครงร่างภายในตัวหุ่น (INNER FRAME) โมเดลรุ่น MG จะมีราคาที่แพง จำนวนชิ้นส่วนต่างๆมากเอาการ ใช้เวลาในการประกอบนานกว่าเกรดอื่นๆ ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ครับ

1:60 SCALE (ความสูงประมาณ 30 ซม.)

สเกล 1:60 Real Deatail โมเดลทั้งหมดจะปรากฏในภาค Mobile Suit Gundam SEED, Mobile Suit Gundam SEED Destiny และ Mobile Suit Gundam 00 (Double O) ตัวสินค้ามีการปรับปรุงคุณภาพเนื้อวัสดุขึ้นมาจากรุ่น HIGH GRADE (HG) เพียงล็กน้อย แต่ในด้านรายละเอียดตัวโมเดลนั้น เกือบเทียบเคียงโมเดลรุ่น MG และสนับสนุนการโพสท่าแอ็คชั่นได้มากกว่า ชุดคิทในรุ่นนี้ราคาไม่สูงมาก บางตัวมีลูกเล่นเสริมด้วยชุดหลอดไฟ LED เช่น ZGMF-X20A “Strike Freedom Gundam”

สเกล 1:60 PERFECT GRADE (PG) โมเดลชุดนี้เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปลายปี 1998 ในรุ่นนี้การออกแบบและการผลิตตัวสินค้ามีมาตรฐานที่ดีที่สุด ในด้านคุณภาพพลาสติก รายละเอียดสีและชิ้นงานที่ดูสมจริง และยังมีองค์ประกอบในส่วนของโลหะมากกว่ารุ่น MG เสียอีก ชุดคิท PG ประกอบด้วยพาร์ทที่ต้องใช้สกูรยึดเข้าไว้ด้วยกัน และยังมีการใช้ลูกเล่นหลอดไฟ LED เล็กๆภายในตัวหุ่น ด้วยการออกแบบที่ซับซ้อน รวมถึงจำนวนชิ้นส่วนที่มากมาย ทำให้สินค้ารุ่นนี้เป็นที่ท้าทายของนักโมเดล เนื่องจากใช้เวลาประกอบ 1-2 วันเลยที่เดียว โมเดล PG เป็นที่ต้องการในวงจำกัดเพราะมีราคาที่แพงมาก สินค้าในรุ่นนี้มี RX-78-2 GUNDAM, MS-06 Zaku II Mass-Product Type และ MS-06S Zaku II “Char Custom”

นอกเหนือจากสเกลที่กล่าวมายังมี สเกลอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ในบทความนี้ ไม่ว่าจะเป็น 1:35, 1:220, 1:400 และ 1:550 เพราะเป็นสเกลที่ไม่นิยมกันมากในหมู่โมเดลเลอร์ครับ

อย่างไรก็ตามหวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยให้นักเล่นโมเดลมือใหม่มีความเข้าใจในชุดพลาสติกโมเดลมากขึ้น และซิ้อสินค้าได้ตรงตามความต้องการจริงๆครับ พบข้อผิดพลาดประการใดกรุณาส่งคำติชมมาได้นะครับ ผมพร้อมแก้ไขเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด