ถ้าพูดถึงเกมยุคใหม่ที่กราฟฟิคถูกสร้างโดยใช้โพลิกอนเพื่อทำรูปทรงสามมิติแทนความงามแบบคลาสสิคอย่างด็อทพิกเซล เครื่องเกมที่เป็นตำนานก้าวแรกๆของวงการก็ต้องนึกถึง PlayStation (PS1) ของโซนี่ ซึ่งในเมืองไทยขณะนั้นกำลังขับเคี่ยวอยู่กับ 3DO และ Sega Saturn และถ้าพูดถึงซีรีย์เกมที่เพิ่งเริ่มต้นตำนานในยุคนั้น หลายเกมยังคงออกภาคใหม่ๆมาจนถึงเครื่องเกมยุคปัจจุบัน เท่าที่ผมนึกออกก็คงมีซีรีย์ Biohazard , Silent Hill และ Metal Gear Solid Metal Gear Solid (1998) ออกตัวภาคแรกใน PS1 อย่างฮือฮาในเมืองไทย แต่แทบจะไม่มีใครรู้ว่ามันเคยมีภาคก่อนหน้านี้มาแล้วในเครื่องเกมยุคโบราณของทางฝั่งตะวันตก Metal Gear (1987) โดยทำลงเครื่อง MSX2 แล้วต่อมาจึงพอร์ตมาลง NES (เครื่องฟามิคอมของทางฝั่งตะวันตก) กรณีนี้คงคล้ายกับเกม Kid Icarus (1986) ชองค่ายนินเทนโด ที่เคยออกมาแล้วในยุคแฟมิคอม แต่คนไทยไม่รู้จัก จนกระทั่งถูกนำมาสร้างใหม่บน 3DS เมื่อต้นปี 2012 ที่ผ่านมา (เครื่อง 3DS เป็นคนละเครื่องกับเครื่อง 3DO นะ) Metal Gear Solid : HD Collection ระบบเกมสามารถนำเซฟที่เล่นจาก Vita มาใช้งานร่วมกับ PS3 ได้ (Cross – Platform Play) แต่การจะทำอย่างนั้นได้ก็ต้องซื้อแผ่น Metal Gear Solid : HD Collection ทั้ง PS3 และ Vita มาด้วยจึงจะใช้งานเซฟร่วมกันได้ ด้วยแนวคิดแบบนี้ผมจึงเชื่อว่าในกรณีของคนไทยทั่วไป การต้องซื้อแผ่นแท้เกมเดิมๆทั้งสองเครื่อง คงมีน้อยคนนักที่จะมี Metal Gear Solid : HD Collection ครบทั้ง PS3 และ Vita Metal Gear Solid : HD Collection (Vita) ได้นำเกมภาคหลักของซีรีย์มารวบรวมไว้ดังนี้คือ MGS 2 , MGS 3 แต่ตัดภาค Peace Walker ที่เคยลง PSP ออกไป (Vita ไม่มี แต่ PS3 มี) บางทีอาจจะเป็นไปได้ว่าใน PS store ของวีต้ามันมีขายภาค Peace Walker ของ PSP อยู่ก็เป็นได้ ก็เลยไม่ได้นำมาลงไว้ด้วยกัน (ที่ขายใน PS store ไม่ใช่ภาพ HD นะ) อีกทั้งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ภาคที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เกมเมอร์คนไทยรู้จักซีรีย์นี้ อย่างภาค Metal Gear Solid (1998) กลับไม่ได้ถูกรวมเอาไว้ใน HD Collection ด้วย มาพูดถึงเกมใน Metal Gear Solid : HD Collection (Vita) กันหน่อยนะครับ ภาค MGS 2 ตัวเกมได้เอาภาค Substance (2002) ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ปรับปรุงมาจาก MGS 2 (2001) เอามาทำเป็นแบบ HD ส่วนภาค MGS 3 ก็ได้นำภาค Subsistence (2005) ที่เป็นเวอร์ชั่นที่ปรับปรุงมาจาก MGS 3 (2004) ซึ่งทั้งสองภาคเคยลงในระบบ PS2 มาก่อนแล้วนั่นเอง ถ้าสังเกตเกมดังใน PS2 จะเห็นได้ว่าในส่วนของมูฟวี่ทำออกมาได้สวยงามไม่ตกยุค แต่ตัวเกมเพลย์จริงๆภาพจะดร็อพลงกว่าตอนที่ดูมูฟวี่ (เกมปัจจุบันภาพมูฟวี่กับเกมเพลย์แทบจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน) อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งสองภาคจะเป็นเกมที่ดีมากๆในยุคของมันแต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปจนถึงยุคของเกม gen ปัจจุบัน (2012) ผมคิดว่าคงมีแค่เกม MGS 3 ที่ยังเล่นสนุกได้อยู่ ส่วน MGS 2 น่าจะเล่นพอเพลินๆมากกว่า และถ้าเปิดเกมภาค MGS 3 ก็จะมีโหมดเกมแถมมาอีกสองเกมคือ Metal Gear (1987) กับ Metal Gear 2 Solid Snake (1990) แต่เนื่องจากเกมทั้งคู่จัดเป็นเกมยุคโบราณไปแล้ว ภาพเป็นเม็ดบิท เสียงเพลงแนว 8-bit ผมเองเปิดเล่นไม่ถึง 5 นาทีก็ไม่ไหวแล้วครับ ถ้ามีใครถามคุณว่า Metal Gear Solid : HD Collection (Vita) ภาพสวยไหม แนะนำให้เปิด Metal Gear ให้เค้าดูเลยครับ (ฮา) ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการซื้อ Metal Gear Solid : HD Collection (Vita) เพื่อมาเล่น MGS 3 โดยเฉพาะปัญหาที่ชวนให้ลังเลก็คือ MGS 3 มันเพิ่งถูกรีเมค Metal Gear Solid 3: Snake Eater 3D (3DS) และวางจำหน่ายเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2012 ที่ผ่านมา ถ้าเป็นคุณจะเลือกเวอร์ชั่นไหนดี ระหว่าง HD หรือ 3D ? ผมเองมีเกม Metal Gear Solid 3: Snake Eater ทั้งสองเวอร์ชั่นคือทั้ง Vita และ 3DS ก็เลยทำการทดสอบด้วยการเปิดรันเกมเพลย์ไปพร้อมๆกัน หลังจากทดลองเปิดพร้อมกัน รันภาพเฟรมเดียวกัน อยู่ราว 60 นาที ก็ได้ข้อสรุปเบื้องต้นดังนี้ครับ เริ่มต้นที่ ebook คู่มือดิจิตอลกันก่อนนะครับ ทางฝั่ง 3DS มีคู่มือที่สามารถเปลี่ยนได้ถึง 3 ภาษา (อังกฤษ , ฝรั่งเศส , สเปน) แต่คงไม่มีประโยชน์เท่าไหร่นักสำหรับเกมเมอร์คนไทยเพราะส่วนมากคงอ่านภาษาอังกฤษกันมากกว่า ในส่วนของ Vita คู่มือมี 36 หน้าเพราะต้องลงรายละเอียดและเล่าเรื่องราวอย่างย่อของแต่ละภาคไว้ (เพราะมันเป็น HD Collection ไง) เอาเข้าจริงจะมีแค่หน้า 17 – 24 เท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับ MGS 3 และเมื่อเปิดเกม MGS 3 ขึ้นมา หน้าไตเติ้ลของ 3DS เปิดมาก็โชว์ภาพวิวสามมิติในป่าที่ดูเหมือนจะเป็นฉากแรกที่ต้องเริ่มเล่น ส่วนของ Vita จะเป็นทหารต่อสู้ด้วยศิลปะ CQC โดยการเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆเมื่อเข้าเมนูแต่ละครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วก็ดูสวยงามไปคนละอย่าง ของ 3DS ดูเหมือนจะเน้นภาพสามมิติที่สวยงามสมจริง ส่วน Vita ก็เน้นการเคลื่อนที่ที่ลื่นไหลลงตัว แบบสอบถามความชอบของ Vita มีให้เลือกแค่ 4 ตัวเลือก แต่ของ 3DS จะมีให้เลือก 7 ตัวเลือก โดยเพิ่มอีก 3 หัวข้อดังนี้ MGS 4 , Peace Walker และ all the MGS game ซึ่งผมเลือก I like MGS 3 ทั้งคู่ ส่วนการปรับโหมดความยากง่ายของ 3DS จะมีให้เลือก 4 ระดับ คือ For beginners , Standard difficultly level , For confident players และ Game ends when being seen by enemy ส่วนของ Vita จะมีปรับความยากง่ายได้ 6 ระดับ คือ Very easy , Easy , Normal , Hard , Extreme และ European extrame เนื่องจากผมต้องบังคับเกมเพลย์พร้อมกันทีเดียวสองเครื่องจึงขอเลือกโหมดง่ายสุดของทั้งคู่นะครับ ทันทีที่เริ่มเกมเพลย์โดยเปิดรันไปพร้อมๆกัน สิ่งที่ได้พบก็คือ 3DS เหมือนตั้งใจทำมาใหม่ทั้งหมด แต่ของ Vita กลับทำมาแบบอนุรักษ์นิยม (แทบเอาของเดิม PS2 มาทั้งดุ้นนั่นเอง) จุดที่ดูดีคือภาพคมชัดแบบ HD และเพิ่มลูกเล่นการทัชในบางจุด เมื่อเปิดรันไปพร้อมๆกันทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า 3DS ทำภาพออกมาได้สวยกว่า เพลง Snake Eater ที่ร้องโดย Cynthia Harrel ดูสวยงามมากเมื่อกลายเป็นมุมมองแบบสามมิติ อีกทั้งการมีจอล่างทัชสกรีนทำให้ได้เปรียบกว่า Vita เพราะผู้เล่นสามารถมองแผนที่และเลือกคำสั่งต่างๆผ่านหน้าจอทัชสกรีนได้ทันที ตัวอย่างที่เห็นชัดคือเวลาที่ Snake (ชื่อตัวเอก) ติดต่อวิทยุเพื่อฟังภารกิจ ถ้าคนที่เล่นมาแล้วก็มันจะกดข้ามโดยการกดปุ่มรัวๆ แต่ของ 3DS สามารถกดทัชที่หน้าจอค้างได้เลย เรียกได้ว่าไวและสะดวกกว่ามากๆ จุดแข็งเรื่องอนาล็อคขวาที่ Vita ใช้ปรับมุมกล้องแทบไม่ต่างจากการใช้งานปุ่ม A B X Y ของ 3DS เลย แต่การกดปุ่มซ้ายของ Vita ที่ใช้เปลี่ยนมุมมองใกล้ไกลของ Vita ก็ช่วยได้เยอะเวลาหมอบคลาน (เนื่องจากไม่มีแผนที่) ตรงจุดนื้ 3DS ไม่สามารถเปลี่ยนระยะมุมกล้องได้ สิ่งหนึ่งที่ผมแปลกใจก็คือ 3DS มันกดย่อตัวย่องได้ แต่ Vita จะลงไปคลานทันที (ซึ่งก็ต้องปรับระยะภาพใหม่ เพราะเวลา stealth จะมองยากมาก) เวลาโดนยิง Vita จะมีรอยเลือดที่เสื้อแต่ของ 3DS จะไม่มี ฉากปีนต้นไม้เอาสัมภาระและฉากขึ้นสะพานอันแรกน่าเสียดายที่ Vita ไม่ใช้ลูกเล่นการเอียงเครื่องเหมือนที่ 3DS มีให้เล่น รวมถึงตำแหน่งต่างๆในฉากที่ Vita ต้องกดปุ่ม สามเหลี่ยม – วงกลม เดาเอาเองแต่ของ 3DS จะมีไอคอนบอกให้กดปุ่ม เงาของต้นไม้ริมบึงของ Vita จะหายไปเฉยๆแต่ของ 3DS จะไม่หาย มันจะอยู่สุดจนชนจอเลยทีเดียว (และเป็น 3 มิติด้วย) ทั้งหมดนี้ใช้เวลาในการทดลองซ้ำไปซ้ำมาซึ่งถ้าใครมีทั้งสองเวอร์ชั่นสามารถเปิดพร้อมกันเพื่อเทียบเคียงกันได้ ทำให้ผมรู้สึกผิดหวังที่ Metal Gear Solid : HD Collection (Vita) เหมือนจะขายของเก่ามากกว่า (Remaster) ที่จะ Remake มันขึ้นมาใหม่ทั้งหมด (3DS ยังเพิ่มลูกเล่นการใช้กล้องเพื่อเปลี่ยนลายชุดพรางได้ด้วย) ฉากที่ Snake ลืมตาตื่นขึ้นมาพบ EVA เปลี่ยนเสื้อของ Vita มันหรี่ตา แต่ของ 3DS เห็นเต็มจอแบบ 3D !! (และเป็นแบบนี้ตลอดทั้งเกม!!!) ผมเองไม่ได้ซีเรียสว่าเครื่องไหนต้องภาพสวยกว่าหรือต้องแพ้ชนะกัน ผมเองไม่ใช่แฟนบอยค่ายใด และยุคสมัยที่ผมเล่น MSG 3 ภาพมันก็กากกว่าเครื่องเกมปัจจุบันมากมาย (แต่ตอนนั้น MGS โคตรสุดยอดเลยครับ) เพราะงั้นการเปรียบเทียบนี้ก็เป็นแค่อีกมุมมองหนึ่งที่ว่า ถ้าคุณจะเล่น Metal Gear Solid 3: Snake Eater เพียงเกมเดียว ผมก็แนะนำให้คุณซื้อเวอร์ชั่น 3DS ไปเลย แต่ถ้าต้องการเก็บสะสมก็ซื้อ Metal Gear Solid : HD Collection (Vita) ขณะที่ผมรีวิว Metal Gear Solid : HD Collection (Vita) ผมมีเกมของวีต้า 20 เกมแล้วครับ ใครอยากเล่นเกมอื่นๆออนไลน์กับผมก็แอดมาได้นะครับ ชื่อไอดี limp2551 ครับ รีวิวโดย limp2551 หมายเหตุ ภาพที่ถ่ายจาก 3DS ไม่สามารถจับแสงสีได้เหมือนการมองด้วยตาเปล่าแล้วเห็นเป็นภาพสามมิติ เพราะงั้นจึงควรดูภาพจริงด้วยตาตนเองเท่านั้น