“สายโลหิต” นวนิยายชิ้นเอกจากปลายปากกาของ “โสภาค สุวรรณ” ที่เคยถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งก็ล้วนแต่ได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นอย่างมาก

     เนื่องจากเป็นเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ชาติไทย ในพุทธศักราช 2301 กรุงเทพมหานครบวรทราวดีศรีอยุธยา ราชธานีของอาณาจักรสยาม ที่ตั้งบนเกาะหนองโสนมีแม่น้ำล้อมรอบเกาะที่รูปพรรณสัณฐานคล้ายสำเภานาวา บ้านเมืองสงบร่มเย็นไพร่ฟ้าหน้าใสด้วยว่างเว้นการศึกเป็นเวลาถึงร้อยกว่าปี เมื่อปลอดศึกจึงมีเวลาทะนุบำรุงบูรณะพระบรมมหาราชวัง ทั้งพระที่นั่งในกรุงและพระที่นั่งนอกกรุง รวมทั้งวัดวาอารามที่ลาดหลังคาโบสถ์วิหาร และพระปรางค์เจดีย์ด้วยแผ่นทองคำ ความงามของกรุงศรีอยุธยาเป็นที่เลื่องลือว่าราวสวรรค์ชั้นฟ้า ยามกลางวันบ้านเมืองคึกคักด้วยผู้คนสัญจรไปมา เรือจากทุกสารทิศบรรทุกสินค้ามาค้าขาย แม่น้ำที่ล้อมรอบกรุงเต็มไปด้วยแพขายสรรพสิ่งของต่างๆ นับคร่าวๆ แล้วประมาณสองหมื่นเศษพันปลาย ถึงฤดูลมสำเภาพัดเข้ามาในกรุง เรือสินค้าจากต่างประเทศทั้งจีนแขกฝรั่งมาจอดทอดสมอ แลกเปลี่ยนสินค้าทันสมัยแดนไกล กับสินค้าพื้นเมืองของชาวอยุธยา กรุงศรีอยุธยาจึงเป็นราชธานีที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในภูมิภาคอุษาคเนย์ ณ เวลานั้น

     ละครเรื่อง “สายโลหิต” ถูกนำมาสร้างอีกครั้งโดย “บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด” บทโทรทัศน์ โดย “ศัลยา สุขะนิวัตติ์” กำกับการแสดงโดย “เพ็ญลักษณ์ อุดมสิน” โดย “สายโลหิต” จะถูกถ่ายทอดเรื่องราวผ่านชีวิตของ 3 ครอบครัวขุนนางสมัยอยุธยา ได้แก่ครอบครัวของ “พระสุวรรณราชา” (ศรุต วิจิตรานนท์) ช่างทองหลวง ซึ่งมีบุตรชายหญิง 3 คน คือ “พ่อเดือน” (นนทพันธ์  ใจกันทา) รับราชการเป็นหลวงเสนาสุรภาค “ลำดวน” (กวิตา จินดาวัฒน์) บุตรีคนต่อมา และ “ดาวเรือง” (ทิสานาฏ ศรศึก) บุตรีคนสุดท้อง แม่ของทั้ง 3 เสียชีวิต แล้วลูกๆ จึงมี “ย่านิ่ม” (ดวงดาว จารุจินดา) เป็นผู้เลี้ยงดู อีกครอบครัวคือ “พระยาพิริยะแสนพลพ่าย” (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) และ “คุณหญิงศรีนวล” (ขวัญฤดี กลมกล่อม) มีบุตรชายหญิงสามคนเช่นกันคือ “หลวงเทพฤทธิ์อริศัตรูพ่าย” (อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) รับราชการเป็นทหาร และเพิ่งแต่งงานกับ ลำดวน “ขุนไกร” (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) บุตรคนที่ 2 รับราชการทหารเช่นกัน และ “แม่หญิงเยื้อน” (ณัฐชา นวลแจ่ม) บุตรีคนสุดท้องอายุเพิ่งย่างรุ่นสาว ครอบครัวที่ 3 คือ “พระวิชิตปรีชา” (ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) และ “คุณหญิงปริก” (รชนีกร พันธุ์มณี) มีบุตรชายเพียงคนเดียวคือ “หมื่นทิพเทศา” (ชนะพล สัตยา) เป็นลูกทูนหัวทูนเกล้าของคุณหญิงปริกทั้งรักและตามใจจนหยิ่งผยองสามหาว และเจ้าเล่ห์แสนกล

     ทั้ง 3 ครอบครัวจะมีชีวิตเกี่ยวพันกันทั้งรักทั้งแค้น จนกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันจนวาระสุดท้ายของชีวิต ติดตามชมละครเรื่อง “สายโลหิต” ออกอากาศทุกวันศุกร์เสาร์และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และช่อง 35 ในระบบ HD