(รีวิว) Dokuro (Full Version)

First Post  
limp2551 11 กรกฎาคม 2555 , 14:09:48




ไม่น่าเชื่อนะครับว่าเกมไฟนอล us (3ds) ที่ควรจะต้องออกมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน จนถึงตอนนี้มันก็ยังดีเลย์สินค้ายังมาไม่ถึงสะพานเหล็ก (ข้อมูลเมื่อ 10 ก.ค. 2555) เพราะงั้นผมขอลัดคิวมารีวิว Dokuro (vita) ก่อนก็แล้วกันนะครับ ส่วนไฟนอลก็รอโอกาสหน้าแทน (ถ้ามี) อ่ะนะ






เป็นเรื่องแปลก (แต่ดี) ที่เกม Dokuro มีราคาถูกกว่าเกมใหม่วีต้าทั่วไป ผมซื้อมาจากสะพานเหล็กราคา 900 บาท (ปกติเกมใหม่วีต้าจะราคา 1200 – 1500 บ.) เรียกได้ว่าเป็นเกมถูกอีกเกมหลังจากที่พบมาทีหนึ่งแล้วกับเกม Ridge Racer (vita) แต่เกมขับรถดริฟท์อันนั้นมันมี dlc ขายแยกต่างหาก (แต่ไม่ซื้อเพิ่มก็ได้นะ) ผิดกับ Dokuro ที่เป็นเกมเต็ม เล่นได้ทันที ไม่เน้น dlc






ถ้าพูดถึงเกมกราฟฟิคแนวๆ ใน vita จะมีเกม Dokuro กับเกม Sumioni ทั้งสองเกมมีลายเส้นสไตล์คล้ายภาพวาด จากเดโม่ที่ vita มีให้โหลดทดลองเล่น เกม Sumioni จะมีภาพคล้ายภาพวาดสีน้ำแบบศิลปะญี่ปุ่น ดูสวยเวลาถ่ายเป็นภาพนิ่ง แต่ดูโล่งและเรียบง่ายเกินไปเมื่อเป็นเกมแอคชั่น อีกทั้งเกมเพลย์ดันพลาดท่าเพราะกลายเป็นเกมแอคชั่นแพลตฟอร์มดาดๆที่พบได้ทั่วไป (สอบตกในสายตาเกมเมอร์) แต่เกม Dokuro ที่มาในแนวภาพวาดสีเทียน แนวภาพทึมๆดูหดหู่ (แต่อาร์ต) ทำให้นึกถึงการ์ตูนของทิมเบอร์ตัน เกมเพลย์มาในแนวพัซเซิ้ลที่อาศัยการเคลื่อนไหวแบบเกมแอคชั่นให้ท้าทาย (น่าสนใจกว่า Sumioni ในแง่ของเดโม่) แต่ถึงอย่างงั้นก็เหอะ ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจเดโม่เกม Dokuro เท่าไหร่นัก เรียกได้ว่ารอเวลาโหลดยังนานกว่าเอามาเปิดเล่น สุดท้ายผมก็ลบมันทิ้งไปหลังจากลองเทสไม่ถึง 5 นาที






ผมซื้อเกม Dokuro มาเพราะมั้นราคา 900 บาทนี่ล่ะ (เป็นเกมที่ 25 ของ vita ที่ผมมี)






ถ้าถามถึงชื่อเสียงของค่าย Gungho ผู้สร้างเกม Dokuro ก็ต้องบอกว่า เกมเมอร์ชาว vita หลายคนคงคุ้นชื่อเพราะเล่นเกม Ragnarok Odyssey บน vita ในช่วงต้นปี 2012 ที่ผ่านมา โดยส่วนตัวผมมองว่าแนวเกมของ Dokuro เป็นแนวพัซเซิ้ลใช้สมองมากกว่าจะเป็นเกมแอคชั่นนะ เพราะงั้นถ้าใครคิดจะหาเกมแอคชั่นแพลตฟอร์มอย่างเกม Rayman Origins (vita) ล่ะก็ เกมอย่าง Dokuro คงไม่สามารถตอบโจทย์ความสนุกแบบนั้นได้เพราะอารมณ์การเล่นแตกต่างกันสิ้นเชิง (มันเป็นคนละแนวเกมนั่นเอง)






ลองมาดูคะแนนเกมของฟามิตซือ (jp) กันดูนะครับ Dokuro – 8/9/9/8 เทียบกับ Ragnarok Odyssey – 9/8/8/7 (เกมจากค่ายเดียวกัน) มองอีกมุมหนึ่งในสายตาของนักวิจารณ์ชาวญี่ปุ่นทั้ง 4 ท่านมองว่า Dokuro มีไอเดียและเกมเพลย์ที่น่าสนใจกว่า Ragnarok Odyssey คะแนนจึงได้มากกว่า หรือเปล่า ?






เนื่องจากเกม Dokuro เป็นเกมที่เน้นเล่นคนเดียว ไม่มีระบบออนไลน์ ผมจึงซื้อแผ่นโซน 3 (hk) มา เรื่องภาษาในเกมเรียกได้ว่าไม่มีปัญหาเพราะสามารถเข้าไปใน Options เพื่อเปลี่ยนภาษาเป็น English ได้ ระบบเปลี่ยนภาษาแบบนี้ผมว่าสะดวกดีนะครับ เท่าที่ผมนึกออกทันที เกมของ vita ที่ทำแบบนี้ได้ก็มี BlazBlue Continuum Shift Extend กับ Disgaea 3 : Absence of Detention (อาจมีเกมอื่นๆอีก แต่ผมจำไม่ค่อยได้ครับ) ขอพูดถึงระบบ Options ของเกม Dokuro สักหน่อยนะครับ ในส่วนนี้สามารถปรับแต่งได้ดังนี้ Language (เลือกภาษา) , Audio (ปรับเสียงดัง-เบา) , Transforming (เลือกแปลงร่างด้วยการทัชหรือใช้ปุ่ม R) , Story Clip Theater (ดูมูฟวี่) และ Delete Save Data (ลบเซฟ เพราะเกมจะจับเวลาตลอดว่าเล่นไปแล้วกี่ชั่วโมง)






เนื้อเรื่องของเกม Dokuro จะให้ช่วยพาเจ้าหญิงหลบหนีจากปราสาทของ Dark Lord โดยตัวเราจะเป็นโครงกระดูก (Skeleton) ที่สามารถแปลงร่างเป็นเจ้าชาย (Hero) ได้ ระหว่างทางจะมีกับดักกลไกต่างๆให้ใช้หัวขบคิดเพื่อพาเจ้าหญิงไปให้ถึงเส้นชัยรูปดอกไม้สีขาว (the flowers bloom) ความแตกต่างระหว่างร่างกระดูกกับเจ้าชายก็คือการกระโดด ถ้าเป็นร่างกระดูกจะกระโดด 2 ชั้นได้ แต่เจ้าชายจะกระโดดได้ 1 ครั้ง แต่เจ้าชายสามารถอุ้มเจ้าหญิงได้และใช้ดาบฟันเชือกขาดได้ ซึ่งกลไกต่างๆจำเป็นต้องใช้ทั้งสองร่างสลับหมุนเวียนกันไปเพื่อแก้ปริศนา ส่วนพัซเซิ้ลในฉากด่านแรกๆจะมีรูปภาพสอนวิธีผ่านกลไก ความยากน่าจะอยู่ที่ไม่สามารถบังคับเจ้าหญิงได้ ทำให้ต้องคอยระวังเจ้าหญิงไม่ให้โดนกับดัก (ถ้าตัวเราโดนกับดักซะเอง ก็เสร็จเหมือนกันนะครับ ระวังด้วย) อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถแก้ปริศนาในฉากได้ก็สามารถกดปุ่มสามเหลี่ยมเพื่อเล่นใหม่อีกครั้งหรือกดข้ามฉากไปเลยก็ได้






ถ้าถามผมว่าเดโม่เกม Dokuro ต่างจาก Full Version ตรงไหนก็ตอบตรงๆว่า ต่างกันแค่จำนวนด่าน (เดโม่มีแค่ด่านช่วงแรก) เมื่อเล่นในแบบ Full Version จะพบด่านใหม่ๆที่ไม่มีในเดโม่ด้วย ยิ่งเล่นไปเรื่อยๆจะยิ่งสนุกมากๆเพราะถึงตอนนั้นผู้เล่นจะสามารถบังคับตัวละครคล่องแล้ว ถึงตอนนั้นก็จะมีทั้งพัซเซิ้ลและแอคชั่นแพลตฟอร์ม แถมยังต้องคอยระวังภัยให้เจ้าหญิงอีก เกม Dokuro จึงเป็นเกมที่เล่นเพลินๆฆ่าเวลายามว่างได้เป็นอย่างดี เพราะงั้นถ้าใครลังเลเกม Dokuro ผมแนะนำให้โหลดเดโม่มาทดลองดูแนวเกมเพลย์ก่อนก็ได้นะครับ (แต่ Full Version เกมนี้ถูกจริงๆนะครับ)






รีวิวโดย limp2551

ใครมี vita ก็แอดผมได้นะครับ