![]() ไม่น่าเชื่อนะครับว่าเกมไฟนอล us (3ds) ที่ควรจะต้องออกมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน จนถึงตอนนี้มันก็ยังดีเลย์สินค้ายังมาไม่ถึงสะพานเหล็ก (ข้อมูลเมื่อ 10 ก.ค. 2555) เพราะงั้นผมขอลัดคิวมารีวิว Dokuro (vita) ก่อนก็แล้วกันนะครับ ส่วนไฟนอลก็รอโอกาสหน้าแทน (ถ้ามี) อ่ะนะ ![]() เป็นเรื่องแปลก (แต่ดี) ที่เกม Dokuro มีราคาถูกกว่าเกมใหม่วีต้าทั่วไป ผมซื้อมาจากสะพานเหล็กราคา 900 บาท (ปกติเกมใหม่วีต้าจะราคา 1200 1500 บ.) เรียกได้ว่าเป็นเกมถูกอีกเกมหลังจากที่พบมาทีหนึ่งแล้วกับเกม Ridge Racer (vita) แต่เกมขับรถดริฟท์อันนั้นมันมี dlc ขายแยกต่างหาก (แต่ไม่ซื้อเพิ่มก็ได้นะ) ผิดกับ Dokuro ที่เป็นเกมเต็ม เล่นได้ทันที ไม่เน้น dlc ![]() ถ้าพูดถึงเกมกราฟฟิคแนวๆ ใน vita จะมีเกม Dokuro กับเกม Sumioni ทั้งสองเกมมีลายเส้นสไตล์คล้ายภาพวาด จากเดโม่ที่ vita มีให้โหลดทดลองเล่น เกม Sumioni จะมีภาพคล้ายภาพวาดสีน้ำแบบศิลปะญี่ปุ่น ดูสวยเวลาถ่ายเป็นภาพนิ่ง แต่ดูโล่งและเรียบง่ายเกินไปเมื่อเป็นเกมแอคชั่น อีกทั้งเกมเพลย์ดันพลาดท่าเพราะกลายเป็นเกมแอคชั่นแพลตฟอร์มดาดๆที่พบได้ทั่วไป (สอบตกในสายตาเกมเมอร์) แต่เกม Dokuro ที่มาในแนวภาพวาดสีเทียน แนวภาพทึมๆดูหดหู่ (แต่อาร์ต) ทำให้นึกถึงการ์ตูนของทิมเบอร์ตัน เกมเพลย์มาในแนวพัซเซิ้ลที่อาศัยการเคลื่อนไหวแบบเกมแอคชั่นให้ท้าทาย (น่าสนใจกว่า Sumioni ในแง่ของเดโม่) แต่ถึงอย่างงั้นก็เหอะ ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจเดโม่เกม Dokuro เท่าไหร่นัก เรียกได้ว่ารอเวลาโหลดยังนานกว่าเอามาเปิดเล่น สุดท้ายผมก็ลบมันทิ้งไปหลังจากลองเทสไม่ถึง 5 นาที ![]() ผมซื้อเกม Dokuro มาเพราะมั้นราคา 900 บาทนี่ล่ะ (เป็นเกมที่ 25 ของ vita ที่ผมมี) ![]() ถ้าถามถึงชื่อเสียงของค่าย Gungho ผู้สร้างเกม Dokuro ก็ต้องบอกว่า เกมเมอร์ชาว vita หลายคนคงคุ้นชื่อเพราะเล่นเกม Ragnarok Odyssey บน vita ในช่วงต้นปี 2012 ที่ผ่านมา โดยส่วนตัวผมมองว่าแนวเกมของ Dokuro เป็นแนวพัซเซิ้ลใช้สมองมากกว่าจะเป็นเกมแอคชั่นนะ เพราะงั้นถ้าใครคิดจะหาเกมแอคชั่นแพลตฟอร์มอย่างเกม Rayman Origins (vita) ล่ะก็ เกมอย่าง Dokuro คงไม่สามารถตอบโจทย์ความสนุกแบบนั้นได้เพราะอารมณ์การเล่นแตกต่างกันสิ้นเชิง (มันเป็นคนละแนวเกมนั่นเอง) ![]() ลองมาดูคะแนนเกมของฟามิตซือ (jp) กันดูนะครับ Dokuro 8/9/9/8 เทียบกับ Ragnarok Odyssey 9/8/8/7 (เกมจากค่ายเดียวกัน) มองอีกมุมหนึ่งในสายตาของนักวิจารณ์ชาวญี่ปุ่นทั้ง 4 ท่านมองว่า Dokuro มีไอเดียและเกมเพลย์ที่น่าสนใจกว่า Ragnarok Odyssey คะแนนจึงได้มากกว่า หรือเปล่า ? ![]() เนื่องจากเกม Dokuro เป็นเกมที่เน้นเล่นคนเดียว ไม่มีระบบออนไลน์ ผมจึงซื้อแผ่นโซน 3 (hk) มา เรื่องภาษาในเกมเรียกได้ว่าไม่มีปัญหาเพราะสามารถเข้าไปใน Options เพื่อเปลี่ยนภาษาเป็น English ได้ ระบบเปลี่ยนภาษาแบบนี้ผมว่าสะดวกดีนะครับ เท่าที่ผมนึกออกทันที เกมของ vita ที่ทำแบบนี้ได้ก็มี BlazBlue Continuum Shift Extend กับ Disgaea 3 : Absence of Detention (อาจมีเกมอื่นๆอีก แต่ผมจำไม่ค่อยได้ครับ) ขอพูดถึงระบบ Options ของเกม Dokuro สักหน่อยนะครับ ในส่วนนี้สามารถปรับแต่งได้ดังนี้ Language (เลือกภาษา) , Audio (ปรับเสียงดัง-เบา) , Transforming (เลือกแปลงร่างด้วยการทัชหรือใช้ปุ่ม R) , Story Clip Theater (ดูมูฟวี่) และ Delete Save Data (ลบเซฟ เพราะเกมจะจับเวลาตลอดว่าเล่นไปแล้วกี่ชั่วโมง) ![]() เนื้อเรื่องของเกม Dokuro จะให้ช่วยพาเจ้าหญิงหลบหนีจากปราสาทของ Dark Lord โดยตัวเราจะเป็นโครงกระดูก (Skeleton) ที่สามารถแปลงร่างเป็นเจ้าชาย (Hero) ได้ ระหว่างทางจะมีกับดักกลไกต่างๆให้ใช้หัวขบคิดเพื่อพาเจ้าหญิงไปให้ถึงเส้นชัยรูปดอกไม้สีขาว (the flowers bloom) ความแตกต่างระหว่างร่างกระดูกกับเจ้าชายก็คือการกระโดด ถ้าเป็นร่างกระดูกจะกระโดด 2 ชั้นได้ แต่เจ้าชายจะกระโดดได้ 1 ครั้ง แต่เจ้าชายสามารถอุ้มเจ้าหญิงได้และใช้ดาบฟันเชือกขาดได้ ซึ่งกลไกต่างๆจำเป็นต้องใช้ทั้งสองร่างสลับหมุนเวียนกันไปเพื่อแก้ปริศนา ส่วนพัซเซิ้ลในฉากด่านแรกๆจะมีรูปภาพสอนวิธีผ่านกลไก ความยากน่าจะอยู่ที่ไม่สามารถบังคับเจ้าหญิงได้ ทำให้ต้องคอยระวังเจ้าหญิงไม่ให้โดนกับดัก (ถ้าตัวเราโดนกับดักซะเอง ก็เสร็จเหมือนกันนะครับ ระวังด้วย) อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถแก้ปริศนาในฉากได้ก็สามารถกดปุ่มสามเหลี่ยมเพื่อเล่นใหม่อีกครั้งหรือกดข้ามฉากไปเลยก็ได้ ![]() ถ้าถามผมว่าเดโม่เกม Dokuro ต่างจาก Full Version ตรงไหนก็ตอบตรงๆว่า ต่างกันแค่จำนวนด่าน (เดโม่มีแค่ด่านช่วงแรก) เมื่อเล่นในแบบ Full Version จะพบด่านใหม่ๆที่ไม่มีในเดโม่ด้วย ยิ่งเล่นไปเรื่อยๆจะยิ่งสนุกมากๆเพราะถึงตอนนั้นผู้เล่นจะสามารถบังคับตัวละครคล่องแล้ว ถึงตอนนั้นก็จะมีทั้งพัซเซิ้ลและแอคชั่นแพลตฟอร์ม แถมยังต้องคอยระวังภัยให้เจ้าหญิงอีก เกม Dokuro จึงเป็นเกมที่เล่นเพลินๆฆ่าเวลายามว่างได้เป็นอย่างดี เพราะงั้นถ้าใครลังเลเกม Dokuro ผมแนะนำให้โหลดเดโม่มาทดลองดูแนวเกมเพลย์ก่อนก็ได้นะครับ (แต่ Full Version เกมนี้ถูกจริงๆนะครับ) ![]() รีวิวโดย limp2551 ใครมี vita ก็แอดผมได้นะครับ |