ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป
หน้าหลัก | เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Username: Password:
  วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2567
  คำค้นหา:
รีวิวเกมจากแฟน GM
รีวิวเกม
สาระน่าเรื่องเกม
บทความเกม
Gamemag online รายสิบวัน
Magazine
Screen Shot
Game Update
คลิปเกมจากยูทูป
Game Tube
Emu และ Rom เกม
Emu&rom
Cosplay
Cosplay
Wallpaper
WallPaper
ภาพวาดจากแฟน GM
Art Corner
Gamemag on Facebook
Facebook
                   
สมาชิกทุกท่านโปรดอ่านก่อน*กฎกติกาของบอร์ด*
รวมวิธีโพสภาพ,คลิป,การใส่ลายเซ็น และอื่นๆ
 l<   <<   >>   >l 
Animategroup.com - GAMEMAG - [นิยายเขียนเองฮับ] ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave) อัพเดตตอน 2
ผู้ตั้งกระทู้ ข้อความ
chanecrood / Moderator
ID : S01485

Level : นักเล่นเกม 16 bits
Exp. : 92%
จิตพิสัย : 100%
Like : 138
Post : 68
Reply : 1198
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2010-04-07
PM Profile
Topic : [นิยายเขียนเองฮับ] ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave) อัพเดตตอน 2
«date: 06 กันยายน 2553 , 13:23:47 »
 แก้ไข  

................chanecrood Production............พยายามร่วมมือกับ.............บอร์ดเกมแม็ก..........ภูมิใจยัดเยียดเสนอ..........
................นิยายแฟนตาซี(รึเปล่าน่ะ )............ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave)

*หมายเหตุ*ทุกอย่างภายในนิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นตามความคิดของผู้เขียนเองทั้งตัวบุคคล สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ และถ้ามีตัวบุคคล สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆไปตรงกับความเป็นจริงผู้เขียนจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น (อาวเฮ้ย ไหงเป็นงั้นอ่ะ)


...............ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave)..................

...............ความเชื่อ(Belief)เป็นจุดเริ่มต้นให้กับในหลายๆสิ่งโดยส่งผ่านไปทางความกล้าหาญ(Brave) กล้าที่จะทำทุกสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้และพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้เป็นจริงตามความเชื่อนั้น...............

...............Chapter 1 บทแห่งการท้าทาย
................ณ ดินแดนที่ถูกเรียกว่า โซเดีย ตลอดเวลาหลายร้อยปีเหล่าอาณาจักรต่างๆพากันรบพุ่งเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่อง บางอาณาจักรล้มสลายถูกดูดกลืนหายไปบางอาณาจักรเติบโตยิ่งใหญ่จนวันเวลาผ่านมาถึงปีโซเดียที่ 550 ทั้งดินแดนหลงเหลือเพียง 3 อาณาจักรใหญ่ คือ อควอเรียส , ซาจิทาเรียส และ แอเรียส ทั้ง 3 อาณาจักรมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไปโดยอาณาจักรซาจิทาเรียสจะเด่นเรื่องกองกำลังทหารพลธนูและอุดมไปด้วยสรรพยากรต่างๆ อาณาจักรแอเรียสจะเด่นเรื่องกองทหารติดอาวุธและเต็มไปด้วยยอดฝีมือในเชิงอาวุธอยู่มากมาย ส่วนอาณาจักรอควอเรียสจะเด่นเรื่องศาสตร์ของเวทมนตร์และวิทยาการณ์ความรู้ ด้วยความแตกต่างนี้ทำให้การสู้รบยังคงดำเนินอยู่จนมาถึงปีโซเดียที่ 570 ราชาแอ็คเซียลแห่งอาณาจักรอควอเรียสก็ได้ทำการรวบรวมดินแดนของโซเดียให้เป็นหนึ่งได้สำเร็จด้วยพลังเวทมนตร์ของเหล่ามหาเวททั้ง 4 ของอาณาจักร......แต่ความสำเร็จนั้นอยู่กับราชาแอ็คเซียลได้ไม่นานนักเขาจะถูกลอบสังหารลงทำให้อำนาจทั้งหมดตกไปอยู่ที่เจ้าหญิงองค์น้อยที่ชื่อว่า เอลิเซีย แต่ด้วยอายุเพียง 8 ปีทุกอย่างมันหนักเกินกว่าเจ้าหญิงองค์น้อยจะรับภาระไหวอำนาจจึงถูกส่งมายังอุปราช โดมิเนท อดีตมหาเศรษฐีของอาณาจักรที่คอยให้การสนับสนุนราชาแอ็คเซียนในการรวบรวมดินแดนมาโดยตลอดจนได้รับการไว้วางใจและได้รับการแต่งตั้งเป็นอุปราชในที่สุด โดมิเนทที่ครองอำนาจสูงสุดเอาไว้ย่อมเล็งเห็นถึงคำครหาที่จะตามมาจึงจัดตั้งระบบสภาสูงมาบริหารอำนาจที่มีโดยผ่านตัวแทนทั้ง 5 ประกอบด้วยบุคคล 5 ฝ่าย คือ ฝ่ายราชสำนัก , ฝ่ายของเหล่ามหาเวท , ฝ่ายของกองทัพ , ฝ่ายของนักปราชญ์และฝ่ายของประชาชนทั่วไป ทุกเรื่องจะต้องผ่านการตัดสินใจจากสภาสูงแห่งนี้จึงเป็นยอมรับให้แก่ทุกฝ่ายแต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงภาพรูปสวยหรูที่ถูกฉาบเอาไว้บังหน้าเท่านั้นเอง
.................เมื่อโซเดียถูกรวบรวมเป็นหนึ่งเหมือนกับว่ายุคสงครามนั้นได้จบลงเพียงเท่านั้นแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะเหล่าอาณาจักรที่ล้มสลายไปได้รวมตัวเป็นกองกำลังต่อต้านอาณาจักรอควอเรียสที่นำโดยผู้สืบทอดแห่งซาจิทาเรียสและแอเรียสเป็นแกนนำ ดังนั้นสงครามในดินแดนโซเดียก็ยังคงดำเนินต่อไป.....

.................ปีโซเดียที่ 580 บริเวณตอนใต้ของดินแดนซึ่งเป็นอดีตพื้นที่ของอาณาจักรซาจิทาเรียส กองทัพของอควอเรียสกำลังเปิดศึกกับกองกำลังต่อต้านเพื่อยึดพื้นที่คืนแต่ในศึกครั้งนี้จะหนักหนาสาหัสกว่าทุกครั้ง กองทัพที่นำโดย บาสเทีย 1 ในแม่ทัพใหญ่แห่งอควอเรียสกำลังถูกกองกำลังต่อต้านรุกไล่อย่างหนักแต่ท่ามกลางการรุกไล่ก็ยังมีทหารหนุ่มคนหนึ่งอายุราว 20 เศษยืนหยัดต่อสู้ด้วยฝีมือดาบอย่างไม่เป็นรองและระหว่างที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นทหารหนุ่มก็หันไปเห็นบาสเทียที่ได้รับบาดเจ็บกำลังล่าถอยออกมาโดยมีทหารอีก 3 คนคอยคุ้มกันอยู่แต่ว่าไม่นานนัก.....
................ ฉึก ! ฉึก! ฉึก!
ทหารคุ้มกันทั้ง 3 ก็ถูกลูกธนูที่พุ่งแหวกอากาศมาด้วยความเร็วสูงโจมตีเข้าใส่จนร่างของทหารทั้ง 3 ลอยลิ้วออกไปส่วนบาสเทียล้มลงกระแทกพื้นอย่างจังทำให้กองกำลังต่อต้านที่อยู่โดยรอบเห็นเข้าจึงต่างหันอาวุธพุ่งเข้าใส่บาสเทียทันที ทหารหนุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงยอมละทิ้งตำแหน่งกระโดดพุ่งตัวออกไปช่วยบาสเทียในทันทีเช่นกัน ทหารหนุ่มคนนั้นกระโดดลงมายืนอยู่ตรงหน้าของบาสเทียจากนั้นก็หมุนตัวพร้อมกับฟาดดาบไปโดยรอบ
.................ตึง!
พลังดาบกระแทกใส่กองกำลังต่อต้านที่อยู่โดยรอบจนกระเด็นกระดอนออกไปทั้งหมด...แต่หลังจากนั้นไม่นานบาสเทียก็พูดขึ้นมาทันทีว่า
“ ระวัง !”
มีลูกธนูกำลังพุ่งตรงมาที่ทหารหนุ่มอย่างรวดเร็ว
................ตึง! เพล้ง!
ทหารหนุ่มยกดาบขึ้นมาป้องกันได้ทันเวลาพอดีแต่พลังของลูกธนูก็ทำให้เขาต้องกระเด็นหลังไปแถมดาบที่ใช้ก้หักคามืออีกด้วย บาสเทียหยิบดาบประจำกายโยนไปให้กับทหารหนุ่มคนนั้นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ ใช่นี่ทหาร ! ระวังตัวด้วยลูกธนูนั้นคงเป็นฝีมือของ อัทเมน ทายาทแห่งซาจิทาเรียสแน่ ”
ยังไม่ทันขาดคำก็มีลูกธนูพุ่งตรงเข้ามาอีก 3 ดอกจาก 3 ทิศทางทั้งซ้ายขวาและด้านหน้า ทหารหนุ่มรีบคว้าจับดาบเอาไว้และฟาดดาบสกัดลูกธนูที่พุ่งเข้ามาทันที
................ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
แม้จะสกัดลูกธนูเอาไว้ได้แต่ลูกธนูยังคงมีพลังเหลือมากพอที่จะทำร้ายผู้คนที่อยู่โดยรอบ ทหารหนุ่มเริ่มตระหนักแล้วว่าอีกฝ่ายต้องเป็นมือธนูชั้นเยี่ยมจึงตั้งท่าพร้อมสู้เต็มที่ส่วนอีกฝ่ายอัทเมนเองก็เริ่มสัมผัสถึงความท้าทายที่อีกฝ่ายส่งออกมาเช่นกันและด้วยอายุที่ใกล้เคียงกันทำให้ทั้ง 2 ต่างก็อยากพิสูจน์พลังฝีมือของตัวเองแม้จะอยู่ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือด
อัทเมนรวบรวมสมาธิจับจ้องไปที่ทหารหนุ่มคนนั้นจนมองเห็นอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนแม้จะอยู่ห่างไกลกันก็ตามจากนั้นก็เริ่มระดมยิงธนูเข้าใส่ทันที ลูกธนูนับสิบถูกระดมยิงเข้าใส่ทหารหนุ่มเพียงเป้าหมายเดียวลูกธนูพุ่งผ่านช่องว่างระหว่างกองกำลังของทั้ง 2 ฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันได้อย่างเหลือเชื่อ ทหารหนุ่มเองก็ก้าวไปหน้าพร้อมกับฟาดดาบเข้าสกัดลูกธนูที่ยิงเข้ามาได้ทั้งหมดอย่างไม่เกรงกลัวและครั้งนี้ลูกธนูทั้งหมดถูกสกัดให้พุ่งลงดินทั้งหมดเพื่อไม่ให้ไปทำร้ายคนอื่นๆที่กำลังสู้รบกันอยู่.....ระลอกแรกผ่านไปอัทเมนกระโดดขึ้นไปกลางอากาศพร้อมกับเล็งธนูมาที่ทหารหนุ่มแล้วยิงออกไปอย่างรวดเร็ว
...............ฟิ้ว!
ครั้งนี้แม้ว่าอัทเมนจะยิงมาเพียงแค่ลูกเดียวแต่ลูกธนูก็พุ่งมาเร็วและแรงจนแหวกอากาศโดยรอบมาเป็นทาง ทหารหนุ่มปักหลักจับดาบสองมือยกดาบขึ้นเหนือหัวแล้วกระโดดพุ่งตัวพร้อมกับฟาดดาบเข้าใส่ลูกธนูของอัทเมนที่พุ่งเข้ามาจนเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
..............ตึง!
หลังการปะทะลูกธนูของอัทเมนแหลกสลายไปส่วนทหารหนุ่มนั้นกระเด็นถอยหลังออกไปไกลกว่าจะหยุดตัวเองได้ก็ต้องใช้ดาบปักพื้นเพื่อหยุดตัวเองเอาไว้ อัทเมนกำลังง้างธนูเพื่อยิงซ้ำแต่ระหว่างนั้นกลับมีเสียงของสมาชิกของกองกำลังต่อต้านตะโกนขึ้นมาว่า
“ พวกมหาเวทมันมาแล้วพวกเราถอยเร็ว ”
และยังไม่ทันขาดคำก็ปรากฏยักษ์หินตนหนึ่งขึ้นมาที่กลางบริเวณสู้รบแล้วทำการโจมตีเข้าใส่กองกำลังต่อต้านทันทีจนแตกกระเจิง แต่นอกจากกองกำลังต่อต้านแล้วเหล่าทหารของอควอเรียสที่อยู่ใกล้ก็พลอยโดนโจมตีเข้าไปด้วยเช่นกันทำให้
ทหารหนุ่มรู้สึกข้องใจอย่างมากจึงคิดจะเข้าไปหายักษ์หินตนนั้นแต่บาสเทียก็พูดห้ามขึ้นมาว่า
“ ไม่ต้องไปหรอก มันเป็นพวกเดียวกับเรา ”
ทหารหนุ่มจึงหันไปประคองให้บาสเทียลุกขึ้นยืนแล้วบาสเทียจึงพูดถามขึ้นมาว่า
“ เจ้ามาใหม่ใช่ไหม ? ชื่ออะไรล่ะ ? ”
ทหารหนุ่มตอบกลับไปในทันทีว่า
“ ครับ ข้าชื่อ เบรฟ ”
บาสเทียจ้องมองมาที่เบรฟแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ เบรฟอย่างนั้นเหรอ ก็เหมาะกับเจ้าดี ”
จากนั้นบาสเทียก็จ้องมองไปที่ยักษ์หินตนนั้นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ เตรียมตัวกลับกันเถอะการต่อสู้มันจบลงแล้ว ”
..............ยักษ์หินคือเวทอสูรรับใช้ของเหล่ามหาเวทและด้วยพลังเวทมันร้ายกาจนี้เองจึงทำให้อาณาอควอเรียสสามารถรวบรวมดินแดนของโซเดียให้เป็นหนึ่งได้สำเร็จ ว่ากันว่าถ้าเหล่ามหาเวททั้ง 4 แห่งอควอเรียสลงสนามรบพร้อมกันจะไม่มีสิ่งใดต่อต้านได้จึงทำให้ฐานะของเหล่ามหาเวทกับผู้ใช้เวทมนตร์ถูกยกระดับเป็นชนชั้นสูงของอาราจักรอควอเรียส

..............อัทเมนต้องจำใจนำกำลังล่าถอยออกไปละทิ้งพื้นที่เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นแต่ก่อนจากจากไปอันเมนยังคงจับจ้องมาที่เบรฟ.....

...............กองทัพของอควอเรียสกลับมายังลิบราที่เป็นเมืองหลวงของอาณาจักร ลิบราเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนและประชาชนมากมายสภาพบ้านเรืองถูกจัดวางอย่างเป็นระบบและวิทยาการณ์การที่ก้าวหน้ากว่าทุกเมืองในดินแดนโซเดียซึ่งก็มาจากเหล่านักปราชญ์ที่เป็นเสาหลักอีกหนึ่งของอาราจักรอควอเรียส เหล่าทหารที่ผ่านการสู้รบถูกส่งกลับมายังเขตที่พักซึ่งเหล่ากองทัพทหารจะไม่ได้รับสิทธิ์พิเศษอะไรมากนักเท่ากับเหล่ามหาเวทและเหล่านักปราชญ์การเป็นอยู่จึงแทบไม่ต่างจากประชาชนทั่วไป เมื่อมาถึงที่พักเหล่าที่เหนื่อยล้าต่างล้มตัวลงนอนกันทั่วบริเวณและพร้อมกับคำพูดที่บ่นอุบ
ทหารคนหนึ่งทรุดตัวนั่งลงแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ เหนื่อยแทบขาดใจเลยว่ะ เป็นพวกมหาเวทนี่ก็ดีไปแปดอย่างมาช้าจบศึกก็รีบกลับก่อนแล้วแบบนี้ทำไมไม่มาให้ไวๆว่ะ ”
ทหารอีกคนที่อยู่ใกล้ๆเอ่ยปากพูดเสริมขึ้นมาอีกว่า
“ ถ้าวันพรุ่งนี้มีการคัดตัวจอมเวทเจ้าจะเหนื่อยยิ่งกว่านี้ ”
เบรฟที่ยืนอยู่ใกล้เกิดสงสัยจึงพูดถามขึ้นมาว่า
“ การคัดตัวจอมเวทเกี่ยวอะไรกับทหารอย่างพวกเราด้วย ”
ทหารคนนั้นจึงพูดกลับไปทันทีว่า
“ เจ้าคงมาใหม่ซินะถึงยังไม่รู้อะไร ทหารอย่างพวกเราก็แค่หนูทดลองยาให้กับพวกจอมเวทเท่านั้น ”
ทหารคนที่เอ่ยปากพูดคนแรกล้มตัวลงนอนกับพื้นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ ไม่ต้องห่วงไปหรอกน้องใหม่เดี๋ยวเจ้าก็จะได้รู้เอง ”
พอพูดยังไม่ทันขาดคำก็มีคนถือเอกสารเดินเข้ามาแล้วก็ประกาศขึ้นมาว่า
“ ขอให้หน่วยทหารที่นี่ส่งคนไปร่วมการคัดตัวจอมเวทในวันพรุ่งนี้จำนวน 10 คน นี่เป็นคำสั่งจากสภาสูงโปรด
ปฏิบัติตามด้วย ”
หลังจากอ่านประกาศเสร็จคนเดินเอกสารก็เดินจากไป ทหารคนที่เพิ่มเอ่ยปากพูดไปลุกขึ้นนั่งพร้อมกับหน้าตาที่เบื่อหน่ายเต็มทีแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ บ้าเอ๊ย ”
เหล่าทหารต่างเมินหน้าหนีบางก็ก้มหน้าลงด้วยความสิ้นหวัง เบรฟยังคงสงสัยกับสิ่งที่กำลังขึ้นจนบาสเทียที่ได้รับการปฐม พยายามเสร็จเดินเข้าเหล่าทหารทั้งหมดจึงพากันลุกขึ้นยืนเพื่อทำการเคารพ บาสเทียมองหาทหารที่ได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุดเพื่อเลือกไปร่วมการคัดตัวจอมเวทที่กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้และบาสเทียก็จำใจต้องเลือกออกมาทั้งหมด 10 คนและ 1 ในนั้นก็มีเบรฟร่วมอยู่ด้วย หลังจากเลือกเสร็จบาสเทียก็เดินออกไปด้วยความละอายที่ต้องส่งลูกน้องออกไปเจอกับเรื่องเลวร้ายเบรฟรีบเดินตามออกไปเพื่อหวังจะถามว่าการคัดตัวจอมเวทมันคืออะไรกันแน่แต่กลับเห็นบาสเทียเดินไปที่กำแพงแล้วใช้มือไปที่กำแพงอยู่หลายครั้งจากนั้นก็หันมาพูดกับเบรฟว่า
“ คนที่มาใหม่อย่างเจ้าคงสงสัยซินะว่าจะเจออะไรในวันพรุ่งนี้ ”
เบรฟพยักหน้าตอบรับบาสเทียจึงเดินเข้ามาตบที่ไหล่ของเบรฟแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ ข้ามันเป็นแม่ทัพไม่ได้เรื่องแค่จะปกป้องลูกน้องที่ร่วมรบยังทำไม่ได้ ข้าขอฝากชีวิตของทุกไว้กับเจ้าได้ไหม ? ”
ถึงเบรฟยังคงไม่เข้าใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่เขากลับพยักหน้าตอบรับโดยไม่ลังเล บาสเทียตบไหล่เบรฟแล้วก็เดินจากไป เบรฟยืนมองบาสเทียผู้ซึ่งเป็นแม่ทัพเดินจากไปและตั้งคำถามในใจว่าอะไรถึงทำให้แม่ทัพอย่างบาสเทียกับเหล่าทหารรู้สึกสิ้นหวังได้ขนาดนี้แม้แต่ตอนต่อสู้และจะเพลี่ยงพล้ำให้แก่กองกำลังต่อต้านเขายังไม่สิ้นหวังได้ขนาดนี้
วันรุ่งขึ้นเบรฟและเพื่อนทหารอีก 9 คนถูกพาตัวมายังลานประลองของเมืองซึ่งเป็นสถานที่จัดการคัดตัวจอมเวทนั่นเอง ทุกคนก้าวเดินลงไปยังลานประลองด้วยความสิ้นหวังส่วนด้านบนของลานประลองก็มีสักขีพยานคนสำคัญ 1 ใน 4 มหาเวทที่มีชื่อว่า เออเน็สท์ และองค์หญิง เอลิเซีย ที่เติบโตเป็นสาวสวยสมวัย 18 ปีก็ร่วมชมอยู่ด้วย
เมื่อทุกอย่างมากันครบเรียบร้อยการคัดตัวจึงเริ่มขึ้นมีจอมเวททั้งหมด 5 คนปรากฏตัวต่อเหล่าทหารทั้ง 10 ในลานประลองและไม่ทันบอกกล่าวอะไรก็ทำการโจมตีใส่เหล่าทหารทันทีด้วยเวทมนตร์พื้นฐานขั้นที่ 1 การคัดตัวจอมเวทแท้จริงแล้วก็คือการเลื่อนขั้นให้กับพวกจอมเวทฝึกหัดโดยใช้เหล่าทหารเป็นตัวทดสอบหรือหนูทดลองนั้นเอง หลายครั้งมีทหารที่ร่วมคัดตัวต้องล้มตายและบาดเจ็บโดยที่พวกจอมเวทไม่มีความผิดใดๆแต่ถ้าทหารคนใดทำร้ายพวกจอมเวทที่ร่วมคัดตัวจะมีความผิดจึงเป็นต้นเหตุของความสิ้นหวังกับเหล่าทหารที่ร่วมคัดตัวส่วนเหล่าจอมเวทกลับไม่รู้สึกผิดและสนุกกับการทำแบบนี้เรื่อยมาจนเป็นเหมือนกับการเล่นสนุกเสียมากกว่า
ทหารจาก 10 คนถูกโจมตีจนล้มลงไปเหลือเพียงครึ่งเดียวเบรฟยังคงยืนหยัดอยู่ได้แต่อีก 4 คนที่เหลือเริ่มไม่ไหวเพราะเอาแต่ป้องกันแถมร่างกายยังบอบช้ำจากการต่อสู้ เบรฟจึงเริ่มทำการตอบโต้พุ่งตัวออกไปฟาดดาบทำลายเวทมนตร์ที่เหล่าจอมเวทโจมตีเข้ามาทั้งหมดแล้วหันไปพูดกับเพื่อนทหารว่า
“ สู้ซิ ถ้าไม่สู้พวกเราจบแน่ ”
เพื่อนทหารที่เหลือยังคงลังเลที่จะตอบโต้แต่เมื่อเบรฟหันหน้าเข้าต่อสู้จึงตั้งท่าเข้าร่วมต่อสู้เช่นกัน เวทมนตร์ขั้นที่ 1 ของเหล่าจอมเวทฝึกหัดเริ่มไม่ได้ผลถูกเบรฟและเพื่อนทหารทำลายทิ้งบาสเทียที่มานั่งชมอยู่ด้วยก็แค่ดีใจอยู่ลึกๆ เมื่อเวทมนตร์ขั้นที่ 1 ไม่ได้ผลเหล่าจอมเวทฝึกหัดจึงหันไปรวมตัวกันยืนตำแหน่งเป็นดาวห้าแฉกพร้อมกับร่ายเวทมนตร์บางอย่างและเพียงไม่นานนักก็ปรากฏวงแหวนเวทธาตุไฟกับน้ำแข็งขึ้นในลานประลองพร้อมกับการมาของสัตว์เวทมนตร์ สิงโตธาตุไฟที่มีเปลวไฟอยู่รอบแผงคอกับเสือธาตุน้ำแข็งที่มีไอเย็นปกคลุมทั่วร่าง
บาสเทียเห็นอย่างนั้นจึงลุกขึ้นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ นี่มันผิดกฎนี่นา การคัดตัวจอมเวทจะใช้เพียงแค่เวทมนตร์ขั้นที่ 1 ไม่ใช่เหรอ ”
แต่เออเน็สท์ 1 ใน 4 มหาเวทก็พูดแย้งขึ้นมาว่า
“ แค่เวทรับใช้ขั้นที่ 1 มันขั้นที่ 1 เหมือนกันไม่ถือว่าผิดกฎ ”
ด้วยฐานะของเออเน็สท์คำพูดของเขาย่อมมีน้ำหนักมากกว่าถึงแม้คำพูดนั้นมันจะดูไร้เหตุผลยังไงก็ตามเพราะเวทมนตร์ปกติกับเวทรับใช้ระดับขั้นมันต่างมากถึงจะขั้นที่ 1 เท่ากันก็ตาม บาสเทียได้แต่กัดฟันนิ่งเงียบด้วยความเจ็บใจที่ต้องเห็นลูกน้องของตัวเองเผชิญอันตรายดดยที่เขาช่วยอะไรไม่ได้
สัตว์รับใช้เริ่มบุกเข้าโจมตีเข้าใส่เหล่าทหารอีกครั้งโดยเริ่มจากทหารทั้ง 4 ทีเริ่มอ่อนล้าและเพียงไม่นานทหารทั้ง 4 ก็ถูกจัดการจนล้มลงไปทั้งหมดเหลือเพียงเบรฟอยู่คนเดียวเท่านั้น สัตว์รับใช้ทั้ง 2 เดินไปรอบๆตัวของเบรฟรอเพียงคำสั่งจากเหล่าจอมเวทฝึกที่ผนึกกำลังควบคุมมันอยู่และดูเหมือนเหล่าจอมเวทฝึกหัดจะจงใจให้เหลือเบรฟไว้เป็นคนสุดท้ายเพราะเบรฟเป็นทหารเพียงไม่กี่คนที่กล้าตอบโต้พวกเขาจึงคิดสั่งสอนให้รู้สำนึก......... โปรดติดตามตอนต่อไป(ตัดจบเป็นการ์ตูนรายสัปดาห์เลยทีเดียว )

รบกวนเหล่าสมาชิกที่หลวมตัวเข้ามาอ่านให้คำติชมหรือแนะนำกันด้วยนะคับ ผมอยากเขียนนิยายเรื่องนี้ให้กับสมาชิกเกมแม็กทุกคนนะคับเลยอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม

............ติดตามตอนที่ 2 ได้ที่โพสต์ใหม่ด้านล่างนะคับ.............

เขียนโดย chanecrood ( 99 ราตรี)


ถูกใจสาดดดด

#ความจริงจะสร้างทุกสิ่ง แต่ความลวงจะทำลายทุกอย่าง#.......By 99 ราตรี

   ip: 1.47.219.189 
Hiruma/ Member
ID : M01677

Level : นักเล่นเกม 8 bits
Exp. : 64%
จิตพิสัย : 100%
Like : 10
Post : 34
Reply : 456
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2010-06-01
PM Profile
Re: [นิยายเขียนเองฮับ] ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave) อัพเดตตอน 2
«Reply # 1 on: 06 กันยายน 2553 , 13:57:08 »
แก้ไข

สนุกดีแหะ

อืมม์ ว่าแล้วก็อยากจะอ่านตอนต่อไป

อีกอย่าง อยากเห็นเด็กหนุ่มคนนึงที่รุ่นราวคราวเดียวกับพระเอก ที่ใช้เวทมนต์สายฟ้าสีดำ

แล้วลองดี สู้กับมหาเวท ทั้งสี่(ตัวนี้อยากให้เป็นตัวร้าย)

คงน่าดูพิลึก(แค่แนะนำเน้อ)


เทพบาซาร่า
PON/ Admin
ID : S00300

Level : นักเล่นเกม3G
Exp. : -75%
จิตพิสัย : 100%
Like : ความดีท่วมหัว
Post : 804
Reply : 5428
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2008-11-04
PM Profile
Re: [นิยายเขียนเองฮับ] ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave) อัพเดตตอน 2
«Reply # 2 on: 06 กันยายน 2553 , 16:02:07 »
แก้ไข

เว้นวรรคกับเว้นบรรทัดหน่อยก้อดีนะครับ อ่านแล้วปวดตา

ลงชื่อไว้ก่อน เดวมาอ่านให้จบ


จิ้มแล้วอ่านโลด
]
fantasyaun/ Moderator
ID : S00691

Level : ราชาเกมบอย
Exp. : 75%
จิตพิสัย : 100%
Like : 59
Post : 77
Reply : 468
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2009-03-29
PM Profile
Re: [นิยายเขียนเองฮับ] ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave) อัพเดตตอน 2
«Reply # 3 on: 06 กันยายน 2553 , 16:53:55 »
แก้ไข

แบ่งวรรคตอนให้มันอ่านง่ายหน่อยก็ดีนะครับ ตาลายมาก

เขียนนิยายเรื่องยาวเนี่ยเป็นอะไรที่โหดหินมากถ้าเราไม่ได้วางเนื้อเรื่องให้ดีๆก่อนเพราะเมื่อแต่งไปเรื่อยๆจะมีอาการตันเกิดข้น

ส่วนนี้นิยายที่ผมเคยแต่งครับ 3 ปี ที่แล้วได้ แต่แต่งไม่จบหรอกขี้เกียจก่อน 5555

http://writer.dek-d.com/fantasyaun/story/view.php?id=240702


http://daraoke.gmember.com/song-เพลง-เนื้อคู่-ศิลปิน-บอย Peacemaker-id345840เนื้อคู๋ - บอย peacemaker ร้องเองจ้า
defjam/ Member
ID : M01846

Level : ไม่เล่นแล้วเกมบอย
Exp. : 50%
จิตพิสัย : 100%
Like : 117
Post : 300
Reply : 418
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2010-07-25
PM Profile
Re: [นิยายเขียนเองฮับ] ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave) อัพเดตตอน 2
«Reply # 4 on: 06 กันยายน 2553 , 22:24:49 »
แก้ไข



แต่งได้ดีมากครับ

อ่านเพลินติดลมเลยนะเนี่ย


chanecrood/ Moderator
ID : S01485

Level : นักเล่นเกม 16 bits
Exp. : 92%
จิตพิสัย : 100%
Like : 138
Post : 68
Reply : 1198
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2010-04-07
PM Profile
Re: [นิยายเขียนเองฮับ] ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave) อัพเดตตอน 2
«Reply # 5 on: 20 กันยายน 2553 , 11:45:35 »
แก้ไข

ต่อจากกระทู้หลักด้านบนคับ......ตอน 2.........

เหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดเริ่มสั่งการให้สัตว์เวทมนตร์ทั้ง 2 เข้าโจมตีใส่เบรฟทันที สัตว์เวทมนตร์ทั้ง 2 ต่างบุกโจมตีเข้าใส่ทั้งพุ่งเข้าชน

และปล่อยพลังธาตุเฉพาะตัวที่เปรียบได้กับเวทมนตร์ระดับกลางจนเบรฟล้มกลิ้งล้มหงายไปหลายรอบ บาสเทียนั่งมองเบรฟถูกรุม

เล่นงานด้วยความอัดอั้นตันใจเพราะไม่อาจจะช่วยอะไรได้เลยแต่ระหว่างนั้นก็มีชายคนหนึ่งในชุดแม่ทัพเดินเข้ามาร่วมชมเพิ่มขึ้น

อีกหนึ่งคนซึ่งเขาก็คือ ซิรัส แม่ทัพใหญ่แห่งอควอเรียสและเป็น 1 ใน 5 ของตัวแทนของสภาสูงอีกด้วย เออเน็สท์เมื่อพบเห็นเข้า

จึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาในทันทีว่า
“ โอ๊ะโอ่ อะไรทำให้ท่าน ซิรัส เดินทางมาร่วมชมด้วยตัวเองได้ ”

ซิรัสแค่หันไปมองเออเน็สท์ครู่หนึ่งแล้วนั่งที่ข้างๆกับบาสเทียโดยไม่พูดอะไรตอบโต้กลับไป เออเน็สท์ที่ถือว่าตัวเองเป็น 1 ใน 4

มหาเวทย์จึงไม่มีความยำเกรงต่อซิรัสแม้แต่น้อยก็ยังคงพูดจาเชิงอวดดีขึ้นมาอีกว่า
“ เออ ข้าก็ลืมไปไอ้ทหารที่สู้อยู่ด้านล่างนั่นมันก็ถือว่าเป็นคนของท่านเหมือนกันนี่นา ”

ซิรัสไม่ได้สนใจกับคำพูดของเออเน็สท์มากนักเพราะเอาแต่จ้องมองการต่อสู้ของเบรฟอย่างไม่วางตาเพราะเบรฟมีอะไรบางอย่าง

ที่ทหารคนอื่นๆไม่มี แม้เบรฟถึงจะถูกสัตว์เวทมนตร์บุกเข้าโจมตีไปกี่ครั้งเบรฟก็ยังลุกขึ้นมาสู้ได้ใหม่ทุกครั้งและเมื่อผ่านการต่อสู้

ไปสักพักหนึ่งเบรฟก็เริ่มสังเกตเห็นอะไรบางอย่างจากสัตว์เวทมนตร์ทั้ง 2 สัตว์เวทมนตร์ทั้ง 2 แม้จะบุกเข้าโจมตีอยู่ตลอดเวลาแต่

ทั้ง 2 จะอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกันเสมอเพราะสัตว์เวทมนตร์ทั้ง 2 มีธาตุที่ขัดกันนั่นเองเบรฟจึงอาศัยจุดนี้ให้เป็นประโยชน์โดยคว้า

หยิบดาบของเพื่อนทหารที่ตกอยู่ขึ้นมาใช้อีกหนึ่งเล่มแล้วไปยืนอยู่ระหว่างสัตว์เวทมนตร์ทั้ง 2 และเริ่มทำการท้าทายยั่วยุจนสัตว์

เวทมนตร์ทั้ง 2 หันมาโจมตีด้วยธาตุเฉพาะตัว ลูกไฟกับก้อนน้ำแข็งถูกยิงเข้าใส่เบรฟอย่างพร้อมเพรียงกันซึ่งเบรฟได้รอจังหวะนี้

อยู่แล้วจึงยกดาบทั้ง 2 ขึ้นมาป้องกันไว้พอลูกไฟกับก้อนน้ำแข็งเริ่มปะทะกับดาบเบรฟก็ทำการหมุนตัวเพื่อเบี่ยงเบนพลังธาตุทั้ง 2

ออกไป ตูม ! ตูม ! ลูกไฟพุ่งเข้าใส่เสือน้ำแข็งส่วนก้อนน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่สิงโตไฟจนทำให้สัตว์เวทมนตร์ทั้ง 2 ต้องหยุดชะงัก

ไปเพราะธาตุที่ขัดกันเอง เบรฟปักดาบทั้ง 2 ลงพื้นแล้วหันไปคว้าหอกที่ตกอยู่มาใช้แทนและกระโดดใช้หอกนั้นแทงใส่ร่างของ

เสือน้ำแข็งจนทะลุ ฉึก ! เมื่อถูกแทงร่างของเสือน้ำแข็งก็กลายเป็นเพียงแค่น้ำแข็งธรรมดาและพอเบรฟทำการบิดหอกซ้ำร่าง

ของเสือน้ำแข็งก็แตกสลายไปในทันที แพล้ง ! การสูญเสียสัตว์เวทมนตร์ไป 1 ตัวทำให้เหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดต่างตื่นตระหนกรีบ

บังคับให้สิงโตไฟเข้าโจมตีใส่เบรฟทั้งทีมันยังไม่พร้อมที่จะโจมตี สิงโตไฟพุ่งกระโจนเข้าใส่เบรฟแต่เบรฟก็สามารถหลบได้โดย

ทิ้งตัวไปที่พื้นและใช้มือข้างหนึ่งยึดพื้นเอาไว้พอสิงโตไฟพุ่งผ่านไปก็ผลักตัวเองลุกขึ้นยืนอีกครั้งพร้อมกับหมุนตัวฟาดหอกตีกวาด

รวบไปที่ขาของสิงโตไฟจนมันล้มลงกระแทกพื้นอย่างจัง ตึง ! ฉึก ! แน่นอนเบรฟไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยรีบใช้หอกแทง

ซ้ำที่ไปร่างของสิงโตไฟจนมันสิ้นพลังสลายกลายเป็นเปลวไฟหายไปในอากาศ เหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดต่างตกใจอย่างมากที่สัตว์

เวทมนตร์ทั้ง 2 ถูกจัดการไปทั้งหมด เบรฟกวาดสายตาที่ดุเอาเรื่องมาที่เหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดนั้นแล้วพุ่งหอกที่อยู่ในมือเข้าใส่

ทันที ฟิ้ว ! ตึง ! เหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดต่างรีบผนึกกำลังกางเวทย์บาเรียป้องกันออกมาทำให้หอกที่พุ่งเข้ามาถูกกระแทกกระเด็น

กลับออกไป

1 ในเหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า
“ เจ้าทหาร เจ้าทำแบบนี้มันผิดกฎรู้ไหม ”

เบรฟเดินออมยิ้มที่มุมปากแล้วก็พูดกลับไปว่า
“ ในเมื่อผิดแล้วก็ผิดเพิ่มอีกสักหน่อยจะเป็นไรไปล่ะ ”

พูดจบเบรฟวิ่งออกไปคว้าดาบที่ปักอยู่ขึ้นมาใหม่แล้ววิ่งตรงเข้าไปหาเหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดซึ่งก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับเหล่า

จอมเวทย์นั้นอย่างมากและด้วยการขาดประสบการณ์ต่อสู้จึงทำได้เพียงกางเวทย์บาเรียเอาไว้ป้องกันพวกตัวเองอย่างเดียวเท่า

นั้น ตึง ! เบรฟฟาดดาบเข้าปะทะกับเวทย์บาเรียป้องกันอย่างจังแต่ไม่ได้ผลถูกแรงปะทะจนกระแทกกลับไป แม้จะไม่เป็นผล

เบรฟก็ยังฟาดดาบเข้าใส่อีกหลายต่อหลายครั้งจนเออเน็สท์ที่เฝ้ามองอยู่ต้องเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า
“ ไอ้ทหารอวดดี ”

เออเน็สท์จงใจพูดด้วยเสียงที่ดังเพื่อหวังกระทบกระเทียบซิรัสกับบาสเทียแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเพราะทั้ง 2 คนเอาแต่มองไปที่

เบรฟที่กำลังต่อสู้อยู่ เบรฟที่ฟาดดาบใส่บาเรียป้องกันไปสักพักก็ต้องหยุดมือแล้วก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า
“ ไอ้บาเรียเนี่ยมันแข็งเหมือนกันแฮะ ”

เหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดที่อยู่ด้านหลังบาเรียต่างพากันยิ้มเยาะแล้วก็มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า
“ ว่าไงล่ะทหาร ไม่ลองต่อแล้วเหรอ ”

เบรฟไม่พูดไม่จาตั้งท่าจับดาบสองมือแล้วค่อยๆยกขึ้นเหนือหัวพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ ถ้างั้นก็ของลองอีกครั้งก็แล้วกันนะ ”

เบรฟพยายามที่จะรวบรวมพลังเพื่อฟาดดาบซ้ำไปอีกหนึ่งครั้งแล้วระหว่างนั้นก็มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อเหล่าอาวุธของเพื่อน

ทหารที่มีทั้งดาบและหอกที่ตกอยู่ในลานประลองถูกดึงดูดเอามาไว้ที่ดาบของเบรฟจนดาบมีรูปร่างที่ใหญ่ขึ้นอีกหลายเท่าตัว เบรฟ

เองก็ประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่ยอมละทิ้งโอกาสที่มีรีบฟาดดาบเข้าใส่บาเรียป้องกันไปสุดแรงทันที สับ ! ตูม ! เสียง

ปะทะดังสนั่นเศษอาวุธปลิวว่อนไปทั้วบริเวณและเมื่อฝุ่นควันจางหายก็พบว่าเหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดทั้งหมดถูกแรงกระแทกจน

กระเด็นไปคนละทิศละทางส่วนเบรฟยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยท่าฟาดดาบไปข้างหน้า

ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดทำให้เออเน็สท์หัวเสียอย่างมากรีบลุกขึ้นแล้วสะบัดมือไปหนึ่งครั้งพร้อมกับพูดว่า
“เจ้าทหารโอหัง ”

ผลจากการสะบัดมือของเออเน็สท์ก็ปรากฏลูกธนูน้ำแข็งพุ่งโจมตีไปที่เบรฟทันทีแต่ลูกธนูน้ำแข็งของเออเน็สท์ก็ไม่อาจทำอะไร

เบรฟได้ถูกเบรฟฟาดดาบสกัดจนกระเด็นออกไป ลูกธนูน้ำแข็งของเออเน็สท์เมื่อกับลูกธนูของอัทเมนแล้วยังห่างชั้นกันมากเบรฟ

จึงสามารถป้องกันเอาไว้ได้อย่างไม่เป็นปัญหา เบรฟกวาดสายตามองขึ้นไปที่เออเน็สท์ราวกับบอกว่าอย่าดูถูกกันเกินไปนักซึ่ง

เออเน็สท์ก็เหมือนจะรู้ถึงข้อความที่เบรฟส่งมาจึงยกมือขึ้นและทำการดีดนิ้วไปหนึ่งครั้ง ป๊อก ! ซิรัสที่เฝ้าดูอยู่รู้เจตนาของ

เออเน็สท์จึงร้องเตือนขึ้นมาว่า
“ ระวัง ! ”

เบรฟยังคงมึนงงอยู่ว่าต้องระวังอะไรซึ่งที่ต้องระวังก็คือลูกธนูน้ำแข็งที่ตกอยู่กับพื้นเมื่อมีเสียงดีดนิ้วของเออเน็สท์ขึ้นมาก็เกิด

ปฏิกิริยาบางอย่างกับลูกธนูน้ำแข็งนั้นโดยมันเริ่มแตกตัวและแทงลงไปในพื้นของลานประลองและกลายเป็นแท่งน้ำแข็งมากมายที่

คมราวกับดาบแทงทะลุจากใต้พื้นลานประลองขึ้นมาเข้าใส่ร่างของเบรฟอย่างจัง ฉึก ! ฉึก ! ฉึก !

เบรฟถูกแท่งน้ำแข็งแทงเข้าใส่ร่างจนเลือดโชก ซิรัสจึงหันไปพูดกับเออเน็สท์ว่า
“ เออเน็สท์ ท่านทำเกินไปแล้ว ”

เออเน็สท์เหมือนจะไม่สนใจกับคำพูดของซิรัสแม้แต่น้อยและกำลังจะโจมตีซ้ำแต่ก็ถูกองค์หญิง เอลิเซีย ที่เฝ้าดูอยู่อย่างเงียบๆ

เอ่ยปากขึ้นมาว่า
“ ท่านเออเน็สท์ ข้าขอให้หยุดเพียงเท่านี้ได้ไหม ”

เมื่อได้ยินดังนั้นเออเน็สท์จึงยอมที่จะหยุดมือดีดนิ้วไปอีกหนึ่งครั้งแท่งน้ำแข็งที่แทงอยู่บนร่างของเบรฟก็สลายกลายเป็นเพียงแค่

ละลองน้ำแข็งไปในทันที เบรฟรอดชีวิตไปได้อย่างหวุดหวิดหลังจากนั้นเออเน็สท์ก็หันมาพูดอย่างน้อบน้อมกับองค์หญิงเอลิเซียว่า
“ ตามประสงค์องค์หญิง ”

เมื่อพูดจบก็เดินจากไปด้วยสีหน้าไม่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไหร่นักส่วนองค์หญิงเอลิเซียก็เดินมาพูดกับซิรัสว่า
“ท่านซิรัส ข้าช่วยท่านได้เพียงเท่านี้ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพวกท่านเองแล้ว ”

องค์หญิงเอลิเซียหันไปมองเบรฟที่นอนจมกองเลือดบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับหญิงรับใช้ผู้ติดตาม ซิรัสรีบเรียก

หมอมาทำการปฐมพยาบาลให้แก่เหล่าทหารทั้ง 10 อย่างเร่งด่วนโดยเบรฟมีอาการสาหัสกว่าใครเพื่อน การคัดตัวจอมเวทย์จบลง

ด้วยความล้มเหลวเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการคัดเลือกมาแต่ครั้งนี้ก็ทำให้รู้ว่าพลังของผู้ที่เป็นมหาเวทย์นั้นคือของจริงอย่าได้ท้าทาย

ต่อพลังนั้น.....

......หลังจากวันคัดตัวจอมเวทย์ผ่านไปเพียง 1 วันในเขตของเหล่าจอมเวทย์วุ่นวายกันยกใหญ่เมื่อเหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดทั้งหมดถูก

เรียกตัวไปยังโดมฝึกเวทย์ บริเวณเขตของเหล่าจอมเวทย์จะถูกก่อสร้างขึ้นมาอย่างดีและใหญ่โตกว่าทุกส่วนในเมืองลิบราเป็นรอง

เพียงแค่เขตวังหลวงเท่านั้นซึ่งแสดงถึงความสำคัญของเหล่าจอมเวทย์ที่มีต่ออาณาจักรอควอเรียสได้เป็นอย่างดี บริเวณโดมฝึก

เวทย์ขนาดใหญ่จอมเวทย์ทั้งหมดถูกเรียกตัวมารวมกันด้วยคำสั่งของเออเน็สท์โดยให้เหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดลงไปรวมตัวกันทั้งหมด

ที่ลานด้านล่างส่วนจอมเวทย์ที่เคยผ่านการคัดตัวไปแล้วจะคอยยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านบน ที่ลานฝึกด้านล่างมีเออเน็สท์มายืนรอ

อยู่แล้วก็พูดกับเหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดร่วม 50 คนขึ้นมาว่า
“ ที่แล้วมาพวกเจ้าคงอยู่กันสบายเกินไปจนละเลยการฝึก วันนี้ข้าจะมาฝึกพิเศษให้กับพวกเจ้าเอง ”

เรื่องการคัดตัวจอมเวทย์ที่ล้มเหลวได้กระจายไปทั่วเมืองได้สร้างความเสียหน้าให้กับเหล่าจอมเวทย์อย่างมาก เออเน็สท์ที่เป็น 1

ใน 4 หมาเวทย์ต้องหันมาเข้มงวดกับเหล่าจอมเวทย์มากขึ้นและนี่ก็คือเหตุที่เหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดถูกเรียกตัวมาฝึกพิเศษ ลานฝึก

ที่กว้างใหญ่เหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดยืนเรียงรายกันทั่วบริเวณโดยมีเออเน็สท์ยืนอยู่ตรงกลางและส่งสัญญาณเริ่มฝึกในทันที เหล่า

จอมเวทย์ฝึกหัดต่างระดมยิงเวทมนตร์เข้าใส่ไปที่เออเน็สท์อย่างพร้อมเพรียงกันโดยเป็นเวทมนตร์ในระดับสูงทั้งสิ้นแต่ดูเหมือนจะ

ไม่ได้สร้างความกดดันให้กับเออเน็สท์แม้แต่น้อยเขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมทำเพียงสะบัดมือไป 1 ครั้งและเมื่อเวทมนตร์ที่ถูกยิงเข้า

มาใกล้ตัวเขาก็ปรากฏแท่งน้ำแข็งก่อตัวเป็นกำแพงล้อมรอบตัวของเออเน็สท์ทั้งหมด ตูม ! ตูม ! ตูม ! เวทมนตร์ที่ยิงเข้ามา

ติดอยู่ที่กำแพงน้ำแข็งนั้นทั้งหมดแม้จะเป็นเวทย์ที่มีธาตุขัดกันอย่างเวทย์ไฟก็ไม่สามารถทำลายกำแพงน้ำแข็งของเออเน็สท์เข้า

มาได้เลยแม้แต่น้อย การโจมตีของเหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดผ่านไปอย่างไร้ผลและในรอบถัดไปจะเป็นการโจมตีของเออเน็สท์ทำให้

เหล่าจองเวทย์ฝึกหัดต่างกางเวทย์บาเรียป้องกันอย่างตั้งใจเพื่อเตรียมรับมือ....ป๊อก !....... เออเน็สท์ดีดนิ้วไป 1 ครั้งกำแพงน้ำ

แข็งนั้นก็แตกสลายลงและกลายเป็นคลื่นน้ำแข็งซัดเข้าไปยังเหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดที่อยู่โดยรอบทันที.......ตูม !.....คลื่นน้ำแข็ง

ระลอกซัดเข้าใส่ก็ทำให้มีเหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดเกินกว่าครึ่งหนึ่งต้านไม่อยู่ถูกซัดกระเด็นออกไป สำหรับคนที่ถูกซัดกระเด็นออก

ไปจะถูกจอมเวทย์ที่คอยสังเกตการณ์พาตัวออกไปเพราะคลื่นน้ำแข็งระลองที่ 2 กำลังจะตามมา คลื่นน้ำแข็งม้วนตัวกลับไปรวม

ตัวกันใหม่กลายเป็นคลื่นที่สูงและใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัวราวกับคลื่นยักษ์จากนั้นก็ซัดกลับเข้าใส่อีกครั้ง........ตูม !.......ครั้ง

นี้เป็นคลื่นน้ำแข็งที่รุนแรงกว่าระลอกแรกมากทำเอาเหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดเกือบทั้งหมดถูกซัดจนกระเด็นออกไปโดยเหลือเพียง

จอมเวทย์ฝึกหัดอยู่เพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่สามารถต้านคลื่นน้ำแข็งระลองนี้เอาไว้ได้ซึ่งก็คือ เซเวอร์รัส จอมเวทย์ฝึกหัดอัจฉริยะ

อายุเพียงแค่ 19 ปีที่ถูกวางตัวไว้ว่าจะเป็นมหาเวทย์คนต่อไปในอนาคตเซเวอร์รัสมีคุณสมบัติของมหาเวทย์อยู่ก็คือสามารถเรียก

ให้เวทย์ได้ดั่งใจนึกและใช้เวทย์ให้เป็นแบบเฉพาะของตัวเองได้โดยเวทย์ที่เขาใช้อยู่ก็คือสายฟ้าสีดำ แล้วด้วยเวทย์นี้เองจึงทำให้

เซเวอร์รัสสามารถต้านทานคลื่นน้ำแข็งของเออเน็สท์เอาไว้ได้โดยกางเวทย์สายฟ้าสีดำให้กลายเป็นโดมป้องกันตัวเองเอาไว้คลื่น

น้ำแข็งที่ซัดเข้ามาจึงไร้ผล

เออเน็สท์สลายเวทย์น้ำแข็งของตัวเองแล้วก็พูดกับเซเวอร์รัสขึ้นมาว่า
“ เซเวอร์รัส ทำไมเจ้าไม่ยอมไปคัดตัวที่จัดขึ้น ”

เซเวอร์รัสมีบุคลิกที่เรียบเฉยเย็นชาไม่มีอาการเกรงกลัวต่อเออเน็สท์เหมือนกับคนอื่นๆ จึงพูดกลับไปว่า
“ การคัดตัว ? นั้นมันแค่การละเล่นของพวกท่านข้าไม่ชอบการละเล่นแบบนั้น ”

ท่าทีอวดดีของเซเวอร์รัสสร้างความไม่พอใจให้แก่เออเน็สท์ไม่น้อยจึงสะบัดมือไปด้านหน้าแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ ถ้าแบบนี้เจ้าคงชอบซินะ ”

เมื่อพูดจบก็ปรากฏแท่งน้ำแข็งที่แหลมคมมากมายวิ่งไปตามพื้นมุ่งไปยังที่เซเวอร์รัสยืนอยู่......เพล้ง !........แท่งน้ำแข็งถูกทำลาย

ทั้งหมดด้วยสายฟ้าดำที่เป็นโซ่มีปลายแหลมเหมือนกับปลายหอกซึ่งก็คือเวทย์เฉพาะตัวของเซเวอร์รัสนั่นเอง เพียงปะทะแค่ครั้ง

เดียวทั้ง 2 ก็รู้ถึงการท้าทายของอีกฝ่ายได้ในทันทีและทำให้การปะทะของจอมเวทย์กำลังเริ่มขึ้นระหว่าง 1 จอมเวทย์อัจฉริยะกับ

1 มหาเวทย์ที่ไร้ผู้ต้าน การปะทะครั้งนี้เป็นที่สนใจแก่เหล่าจอมเวทย์ที่เฝ้าสังเกตการณ์อย่างยิ่งและในเหล่าจอมเวทย์นั้นก็ยังมี ไฟ

เซอร์ อีก 1 ใน 4 มหาเวทย์เฝ้ามองอยู่ด้วยเช่นกัน บรรยากาศภายในโดมเงียบและนิ่งสนิทราวกับเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการ

ปะทะที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า เซเวอร์รัสตัดสินใจที่จะรุกก่อนเรียกสายฟ้าดำมาไว้ที่แขนทั้ง 2 ข้างและจัดการหลอมให้กลาย

เป็นโซ่ปลายแหลมออกมาจากแขนจำนวน 2 เส้นหลังจากนั้นก็บังคับให้พุ่งเข้าใส่เออเน็สท์ทันที โซ่สายฟ้าดำของเซเวอร์รัสพุ่ง

เข้ามาหาเออเน็สท์อย่างรวดเร็วแต่ตัวเออเน็สท์เองก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรแถมยังพูดขึ้นมาอีกว่า
“ เข้าใจเล่นแต่ทำไมมาทื่อจัง ”

พูดจบเออเน็สท์ก็ได้ดีดนิ้วไปข้างหน้าพร้อมกับหยดน้ำจำนวน 2 หยดลอยเข้าไปปะทะบริเวณกลางโซ่สายฟ้าดำที่กำลังพุ่งเข้า

มา......แปะ !.......แปะ !..........เมื่อถูกหยดน้ำนั้นเข้าบริเวณช่วงกลางโซ่สายฟ้าดำก็ถูกไอเย็นเกาะจนกลายเป็นน้ำแข็งไปและมัน

ยังส่งผลให้โซ่สายฟ้าดำที่พุ่งเข้ามาสิ้นแรงส่งแล้วตกลงไปกองอยู่ที่พื้นทันที เซเวอร์รัสรีบสลัดไอเย็นที่เกาะอยู่ออกไปพร้อมกับ

ดึงโซ่สายฟ้าดำกลับคืนเพื่อเตรียมตัวตั้งรับการโจมตีที่จะตามมา

เออเน็สท์ยกแขนขวาขึ้นแล้วพูดกับเซเวอร์รัสขึ้นมาว่า
“ การใช้เวทย์ที่ดีต้องมีอิสระ แบบนี้ ”

พูดจบก็ได้ปล่อยลูกบอลน้ำขนาดเท่ากำปั้นลงไปกับพื้นแล้วลูกบอลน้ำนั้นก็วิ่งไปตามพื้นเลื้อยเข้าไปหาเซเวอร์รัสราวกับงูที่มี

ชีวิต เซเวอร์รัสรีบบังคับโซ่สายฟ้าดำของตนเข้าโจมตีเพื่อสกัดแต่พอถูกโจมตีลูกบอลน้ำของเออเน็สท์กลับกระโดดหลบขึ้นมา

จากพื้นได้อย่างเหลือเชื่อแถมยังกระโดดไปมาจนทั่วโดมฝึกและทุกจุดตกก็จะมีน้ำแข็งเกาะอยู่ทุกทีทำให้เหล่าจอมเวทย์ที่ร่วมชม

ต่างฮือฮาที่ได้เห็นแต่สำหรับเซเวอร์รัสคงไม่มีเวลาที่จะฮือฮาที่ได้เห็นเพราะต้องเตรียมตัวรับการโจมตีที่กำลังใกล้เข้ามาเต็มที

เมื่อไม่อาจจับทิศทางการโจมตีได้เซเวอร์รัสจึงเลือกผนึกโซ่สายฟ้าดำทั้ง 2 เส้นให้กลายเป็นโดมล้อมรอบตัวเองเอาไว้ซึ่งลูกบอล

น้ำได้พุ่งตกลงมาจากทางด้านบน......ตูม !......ลูกบอลน้ำแตกกระจายเป็นน้ำแข็งเกาะติดอยู่กับโดมโซ่สายฟ้าดำแต่พอเซเวอร์รัส

คลายผนึกออกน้ำแข็งที่เกาะอยู่ก็กระเด็นออกไปทั้งหมด เซเวอร์รัสเริ่มโจมตีเข้าใส่เออเน็สท์อีกครั้งด้วยโซ่สายฟ้าดำแต่ครั้งนี้

ทิศทางของปลายโซ่ถูกบังคับให้หักเลี้ยวไปมาได้อย่างอิสระตามคำพูดของเออเน็สท์ที่เคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ซึ่งก็แสดงถึงความ

อัจฉริยะของเซเวอร์รัสได้เป็นอย่างดี เออเน็สท์อดที่จะชื่นชมในความพัฒนาการของเซเวอร์รัสอยู่ไม่น้อยแต่ด้วยฐานะของมหา

เวทย์คงไม่ยอมให้จอมเวทย์ฝึกหัดมาลูบคมเอาง่ายๆแน่นอน.......ป๊อก !......ตึง !........เออเน็สท์ดีดนิ้วไปหนึ่งครั้งก็ปรากฏก้อน

น้ำแข็งขนาดใหญ่หล่นลงมาทับช่วงบริเวณโค่นโซ่สายฟ้าดำทั้ง 2 เส้นที่ยังไม่มีการพลิกแพลงซึ่งมันก็จะเป็นจุดส่งพลังนั่นเอง

การโจมตีของเซเวอร์รัสถูกเออเน็สท์สยบเอาไว้อย่างง่ายดายแถมครั้งนี้ยังไม่สามารถที่จะดึงโซ่สายฟ้าดำของตนกลับไปได้อย่าง

ครั้งก่อนเขาจึงจำใจต้องสลัดทิ้งแล้วสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อเตรียมรับมือการโจมตีโต้กลับที่จะตามมา เออเน็สท์ยกมือขึ้นแล้วพลักฝ่า

มือไปที่ก้อนน้ำแข็งนั้นจนก้อนน้ำแข็งค่อยๆยุบไปและแตกกระจายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยที่คล้ายกับใบมีดพุ่งเข้าใส่ยังเซเวอร์

รัสทันที.........ฟิ้ว !......ฟิ้ว !.......ฟิ้ว !.......เซเวอร์รัสรีบผนึกให้โซ่สายฟ้าดำของตนกลายเป็นโล่ขนาดใหญ่เพื่อรับการโจมตีและ

พอรับการโจมตีไปได้สักพักใบมีดน้ำแข็งของเออเน็สท์เริ่มอ่อนลงเซเวอร์รัสก็จัดการผนึกเปลี่ยนรูปร่างของโล่ให้กลายเป็น

ลักษณะกรวยมีปลายแหลมยื่นออกไปด้านหน้าคล้ายกับปลายหอกขนาดใหญ่ หลังจากนั้นก็บังคับให้พุ่งเข้าโจมตีใส่เออเน็สท์ใน

ทันทีซึ่งครั้งนี้เป็นการโจมตีที่ถือว่าสมบูรณ์ที่มีทั้งรุกและรับไปพร้อมๆกัน

เออเน็สท์เผยรอยยิ้มที่มุมปากแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ ไม่เลวนี่ไอ้หนู แต่ถ้าจะล้มข้ามันต้องแรงอย่างนี้ ”

ป๊อก !......เออเน็สท์ยกมือขึ้นมาดีดนิ้วพร้อมกันทั้ง 2 ข้างเสียงดีดนิ้วดังก้องไปทั่วโดมฝึกและเพียงอึดใจก็ปรากฏหอกน้ำแข็ง

จำนวนมากมายนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าแทงไปที่โซ่สายฟ้าดำที่ถูกผนึกเป็นปลายหอกขนาดใหญ่.....ฉึก !.....ฉึก !.....ฉึก ! จนหยุดนิ่ง

ไปและต่อจากนั้นหอกน้ำแข็งก็ระเบิดตัวเองจนโซ่สายฟ้าดำของเซเวอร์รัสแหลกยับในพริบตา แต่ดูเหมือนจะยังไม่หมดเพียงเท่า

นั้นน้ำแข็งที่ระเบิดตัวออกกลับมารวมตัวกันใหม่กลายเป็นเถาวัลย์ขนาดใหญ่เลื่อยเข้าไปล้อมรอบตัวของเซเวอร์รัสเอาไว้อย่างรวด

เร็วจนไม่อาจตั้งรับได้ทันซึ่งเซเวอร์รัสเองก็สูญเสียพลังเวทย์ไปมากเกินกว่าที่จะต้านรับเวทย์ระดับสุดยอดของเออเน็สท์ในครั้งนี้

ได้........ตูม !........เถาวัลย์น้ำแข็งทำการบีบรัดตัวเองอย่างรวดเร็วและระเบิดตัวเองเสียงดังสนั่นไปทั่วโดมฝึก เศษและไอเย็น

จากน้ำแข็งฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณแล้วเมื่อทุกอย่างจางลงก็ปรากฏร่างของเซเวอร์รัสถูกบาเรียสีแดงป้องกันเอาไว้โดยไม่ได้รับ

บาดเจ็บอะไรแม้แต่น้อยซึ่งก็เป็นฝีมือของ ไฟเซอร์ นั่นเอง แน่นอนเหมือนเออเน็สท์จะรู้ล่วงหน้าแล้วว่าไฟเซอร์ก็เฝ้าดูอยู่เช่นกัน

จึงจงใจใช้เวทย์ที่รุนแรงขนาดนั้นออกไปเพียงเพื่ออยากลองวัดฝีมือกับไฟเซอร์เท่านั้นเอง เออเน็สท์เดินออกไปจากลานฝึกแล้ว

หันไปพูดกับเซเวอร์รัสขึ้นมาว่า
“ เซเวอร์รัส ข้ายอมรับในตัวเจ้าว่ามีคุณสมบัติที่จะเป็นมหาเวทย์ได้แต่ตอนนี้ยังอีกไกล ”

เซเวอร์รัสยืนมองดูเออเน็สท์เดินจากไปและเมื่อหันไปมองยังจุดที่เออเน็สท์เคยยืนอยู่ตลอดการฝึกก็จะเห็นว่าเออเน็สท์แทบไม่

ได้ขยับไปจากจุดนั้นเลยซึ่งก็บ่งบอกได้ถึงระดับที่ต่างกันมาก เซเวอร์รัสที่ได้รับการยกย่องและวางตัวให้เป็นมหาเวทย์เริ่ม

ตระหนักแล้วว่าฐานะมหาเวทย์ไม่ได้มาโดยง่ายๆอย่างที่เคยคิดมาตลอด

เออเน็สท์เดินพูดคุยออกมากับไฟเซอร์โดยบทสนทนาส่วนใหญ่จะถามถึง วินด์ อีก 1 ใน 4 มหาเวทย์ที่ได้หายตัวหลังจาก

สงครามรวบรวมดินแดน ไฟเซอร์ที่พยายามออกเดินทางตามหามาตลอดแต่ก็ยังไม่พบตัวจนเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า
“ ข้ามีลางสังหรณ์ว่าถ้าได้เจอกับวินด์เข้าจริงๆอาจเจอกันในฐานะศัตรูก็ได้ ”

เออเน็สท์พูดขึ้นมาในทันทีว่า
“ ก็ดีเหมือนกันจะได้วัดฝีมือให้มันรู้ดำรู้แดงไปเสียที ถ้าเป็นจริงคงสนุกไม่น้อย ”

ไฟเซอร์ได้แต่ถอนใจแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ เฮ่อ ไอ้นิสัยชอบเอาชนะของเจ้านี่แก้ไม่หายจริงๆนะเออเน็สท์แล้วไอ้หนูนั่นไม่พอมือหรือไง ”

เออเน็สท์ทำท่าหยักไหล่แล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ เฮอะ ไอ้หนูตุ๊กตาของเจ้าพวกนักปราชญ์นั่นนะเหรอแค่ทำให้สนุกขึ้นมานิดหน่อยเอง ”

ไฟเซอร์ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับอมยิ้มไปแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ ถ้าพวกนักปราชญ์มาได้ยินคำพูดของเจ้าคงโกรธน่าดูเลยนะ นั่นนะผลงานชิ้นโบแดงเชียวนะ ”

เออเน็สท์ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไปได้แต่เดินหัวเราะชอบใจไปเรื่อย........แล้วตุ๊กตาที่พูดถึงกันหมายถึงใคร ?
.................................................................................................................................................................
..............อีก 3 วันต่อมาบริเวณเขตทหารภายในห้องพักเบรฟฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บแล้วค่อยๆเดินออกไปที่ด้านนอกซึ่งเป็น

ลานฝึกมีทหารกำลังฝึกซ้อมฝีมือกันอยู่ เมื่อเห็นเบรฟเดินเข้ามาเหล่าทหารต่างเดินเข้ามารุมล้อมรอบตัวของเบรฟเอาไว้และพูด

ถามโน่นถามนี่ด้วยความชื่นชมแล้วก็มีทหารช่างพูดคนหนึ่งเดินฝ่าวงล้อมเข้ามาพร้อมกับกอดคอเบรฟเอาไว้แล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ ข้าชื่อ ดาท เจ้าชื่อเบรฟใช่ไหมจำข้าได้หรือเปล่าที่ร่วมสู้กับเจ้าน่ะ ”

แต่หลังจากพูดจบก็มีทหารอีกคนพูดแทรกขึ้นมาในทันทีว่า
“ อย่าโม้ไปหน่อยเลยนะดาท แกมันล้มไปคนแรกเลยไม่ใช่เหรอ ”

ดาทจึงรีบโวยใส่ทหารคนนั้นกลับไปทันทีว่า
“เฮ่ ราฟ แกจะมาขัดคอกันทำไมข้าก็เสียหมดซิแบบนี้ ”

หลังจากนั้นเหล่าทหารก็ต่างพากันหัวเราะชอบใจส่วนทหารที่ชื่อ ราฟ ก็มาพร้อมกับเพื่อนทหารที่เคยร่วมสู้ในการคัดตัวจอมเวทย์

เช่นเดียวกับดาท ทุกคนต่างส่งสัญญาณแสดงความชื่นชมกับกับเบรฟจนเบรฟอดที่จะยินดีไม่ได้เพราะที่ผ่านมาเบรฟมีชีวิตมา

เพียงลำพังตลอดมา บรรยากาศภายในเขตทหารเต็มไปด้วยความหวังอีกครั้งหลังจากผ่านช่วงเวลาเลวร้ายมานานการที่เบรฟ

สามารถต่อสู้จนการคัดตัวจอมเวทย์ล่มเหลวไปก็สร้างชื่อเสียงให้กับเหล่าทหารได้พอสมควรไม่เหมือนก่อนที่จะถูกเหล่าจอมเวทย์

ข่มอยู่ตลอด
.................อีก 7 วันต่อมาเบรฟถูกใครบางคนเรียกตัวไปพบที่ด้านนอกของเมืองซึ่งดูเหมือนจะเป็นคนที่สำคัญไม่น้อยเพราะซิรัส

เป็นคนพาเบรฟมาด้วยตัวเอง บริเวณนอกเมืองทางทิศตะวันตกเป็นทุ่งโล่งกว้างมีต้นไม้ขนาดใหญ่อายุร่วม 100 ปีขึ้นอยู่ริมหน้าผา

ติดกับทะเลแต่กลับมีบรรยากาศชวนให้เปลี่ยวเหงาอย่างประหลาดเพราะทั้งบริเวณมีเพียงต้นไม้ใหญ่อยู่เพียงต้นเดียวเท่านั้นและ

คนที่เบรฟต้องมาพบก็กำลังยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่นั้นซึ่งผู้ที่ยืนรออยู่ใต้ต้นไม้เป็นหญิง 2 คนที่มาในชุดผ้าคลุมปกปิดหน้าตาและ

เมื่อเปิดผ้าคลุมก็มาก็คือองค์หญิงเอลิเซียแห่งอคอเรียสนั่นเอง.................โปรดติดตอนต่อไป(ถ้ามี )

ตัวอย่างตอนต่อไป.......เพราะเหตุใดองค์หญิงเอลิเซียต้องมาพบกับเบรฟด้วยแล้วการพบกันของทั้ง 2 จะมีผลอะไรหรือไม ?
และเมื่อเบรฟต้องเลือกระหว่างหน้าที่กับความเชื่อของตนเบรฟจะเลือกสิ่งใด ? (อาว แบบนี้แสดงว่ายังมีต่อแล้วมุข"ถ้ามี"เล่นทำไม )


#ความจริงจะสร้างทุกสิ่ง แต่ความลวงจะทำลายทุกอย่าง#.......By 99 ราตรี

Hiruma/ Member
ID : M01677

Level : นักเล่นเกม 8 bits
Exp. : 64%
จิตพิสัย : 100%
Like : 10
Post : 34
Reply : 456
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2010-06-01
PM Profile
Re: [นิยายเขียนเองฮับ] ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave) อัพเดตตอน 2
«Reply # 6 on: 20 กันยายน 2553 , 14:58:27 »
แก้ไข

ตอนสองมาแล้ว

อืม เซเวอร์รัส นี่มัน...นี่หว่า แถมอายุเท่ากันเด๊ะเลย

รออ่านตอนสองอยู่เน้อ พี่แชง

แล้วจะติดตามทุกๆตอน

ปล. เวทย์สายฟ้าสีดำ ถูกใจมาก


เทพบาซาร่า
JABAWOK/ Member
ID : M01757

Level : นักเล่นเกม 32 bits
Exp. : 18%
จิตพิสัย : 100%
Like : 25
Post : 61
Reply : 2324
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2010-06-24
PM Profile
Re: [นิยายเขียนเองฮับ] ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave) อัพเดตตอน 2
«Reply # 7 on: 21 กันยายน 2553 , 07:43:41 »
แก้ไข

ลงไว้ก่อน เด๋วสอบเสดกลับมาอ่าน

 l<   <<   >>   >l 

ผู้ใช้งานขณะนี้มีผู้ออนไลน์ 6 คน บอรด์มีทั้งหมด : 7,160 กระทู้ รวม  : 30,577 คำตอบ เข้าอ่านกระทู้ทั้งหมด : 14,369,720 ครั้ง
ดูตอบกระทู้ล่าสุดบนบอร์ด

0ขาจร, 6สาวก
ผู้ใช้เมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมา:
, , , , , ,

HBD : no member

 

Copyright 2007 Animate Group Co.,Ltd. All rights reserved.